ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวเพิ่มขึ้น 165 จุดในช่วงเช้าวันนี้ หลังทรุดตัวลงกว่า 900 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่พบในแอฟริกาใต้ นำโดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้นประมาณ 165 จุด หรือ 0.5% S&P 500 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.7% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.8%
ส่วนราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้น 3.25 ดอลลาร์ หรือ +4.77% แตะที่ 71.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเช้านี้ หลังจากที่ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์
คีธ เลอร์เนอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนร่วมของ Truist Advisory Services กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิดยังคงเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาด และมีแนวโน้มที่จะสร้างความผันผวนอย่างต่อเนื่องในปีหน้า ในตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะพูดได้ว่าสายพันธุ์ที่พบเจอล่าสุดนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดมากหรือน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่พบในแอฟริกาใต้ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า ไวรัสโอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก และอาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
โดยโอไมครอนเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่ 5 ที่ WHO ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก และจากรายงานล่าสุดระบุว่า แคนาดาพบผู้ติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 2 รายในเมืองออตตาวา เมืองหลวงของแคนาดา โดยผู้ติดเชื้อทั้งสองรายเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไนจีเรียเมื่อเร็วๆ นี้
พอล เบอร์ตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของ Moderna กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า คาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดตัววัคซีนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อต่อต้านสายพันธุ์โอไมครอนในต้นปีหน้า โดยตอนนี้ทางด้านผู้ผลิตวัคซีนกำลังดำเนินการทดสอบวัคซีนอยู่ เพื่อติดตามดูว่าโอไมครอนจะตอบสนองต่อวัคซีนในปัจจุบันอย่างไร และจำเป็นต้องมีสูตรใหม่หรือไม่
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนตุลาคม, ดัชนีการผลิตเดือนพฤศจิกายนจากเฟดดัลลัส, ดัชนีราคาบ้านเดือนกันยายนจากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนจาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤศจิกายนจาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพฤศจิกายนจากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายนจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนตุลาคม, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายน, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพฤศจิกายนจากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนตุลาคม และดัชนีภาคบริการเดือนพฤศจิกายนจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM)
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/11/28/stock-market-futures-open-to-close-news.html?__source=iosappshare%7Cjp.naver.line.Share
- https://www.reuters.com/markets/europe/global-markets-wrapup-2-pix-2021-11-29/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP