เหตุจากมีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นเกิน! Xiaomi ร่วงเป็นอันดับ 3 รองจาก Apple แถมโดนวิกฤตขาดแคลนชิปซัดหนัก

สมาร์ทโฟนของ Xiaomi วิ่งนำ Apple อยู่ที่อันดับ 2 อยู่ดีๆ กลับสะดุดหินก้อนใหญ่อย่างการขาดแคลนชิปทั่วโลกและการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้ Xiaomi ตกลงมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกในไตรมาส 3 ตามรายงานของบริษัทวิจัยอย่าง Counterpoint Research และ Canaly

Xiaomi จัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกไปจำนวน 43.9 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 ในปี 2021 ซึ่งลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดย Xiaomi เองมองว่า สมาร์ทโฟนถือเป็นสินค้ารากฐานที่สำคัญของบริษัท เช่นเดียวกับอุปกรณ์ IoT อื่นๆ ของบริษัท นอกจากนี้ยังประกาศว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากในช่วงครึ่งปีแรกของ 2024 อีกด้วย

ถึงแม้ว่า Apple จะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แทน Xiaomi แต่ก็ไม่ได้ถือว่าแซงไปไกลมากเท่าไรนัก เนื่องจากในไตรมาส 2 Xiaomi มีการจัดส่งสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เป็นรองเพียงแค่พี่ใหญ่อย่าง Samsung เท่านั้น

การขาดแคลนชิปส่งผลต่อทุกบริษัทสมาร์ทโฟนทั่วโลก แต่ทำไมการขาดแคลนนี้ถือเป็นอุปสรรคที่ใหญ่กว่าคู่แข่งสำหรับ Xiaomi? เนื่องจาก Xiaomi มีสมาร์ทโฟนรุ่นที่แตกต่างกันมากกว่า 50 รุ่น เมื่อเทียบกับ Apple ที่มีรุ่นที่แตกต่างกันแค่ 14 รุ่น ส่งผลให้ Xiaomi มีอุปสรรคอย่างมากในการหาชิ้นส่วนประกอบสมาร์ทโฟนในแต่ละรุ่น ซึ่งปัญหานี้ช่วยให้ Apple ขึ้นแซงมาเป็นอันดับ 2 ได้

รวมถึง iPhone 13 ของ Apple ทำยอดขายได้อย่างแข็งแกร่ง ครองการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกถึง 15% มากกว่า Xiaomi ที่ 14% ซึ่ง Xiaomi อาจพลิกกลับมาแซงได้ในไม่ช้า เนื่องจากทำผลงานไว้ดีในช่วงครึ่งปีแรก และยังมีมหกรรมเทศกาลใหญ่อย่างตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย

เป้าหมายสูงสุดของ Xiaomi คือการเป็นที่ 1 ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ Xiaomi จะยังคงต้องรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนและอินเดียให้ได้ แต่การเป็นผู้นำใน 2 ตลาดนั้นก็ยังไม่เพียงพอให้เป็นที่ 1 ได้ และตลาดอเมริกาก็ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ซึ่ง Xiaomi ยังไม่สามารถบุกเข้าไปในตลาดนั้นได้ดีนัก และตลาดอเมริกาก็ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของ Xiaomi ที่จะต้องแก้ให้ได้ เพื่อขึ้นไปยังจุดสูงสุด

Xiaomi มีรายรับรวม 7.81 หมื่นล้านหยวน (4.07 แสนล้านบาท) ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ตัวเลขถือว่ายังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25% เป็นเกือบ 5.2 พันล้านหยวน (2.7 หมื่นล้านบาท) ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อย

อ้างอิง: