เช้าวันนี้ (8 พฤศจิกายน) ต่อเนื่องตลอดวัน ประชาชนที่อาศัยย่านจังหวัดนนทบุรีต้องแปลกใจกับสภาพการจราจรที่ติดขัดผิดปกติ เมื่อขับรถแบบคืบคลานไปได้สักพักใหญ่จึงพบว่าน้ำท่วมถนนหลายเส้นทางของจังหวัดนนทบุรีแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานกลับรถ และซอยต่างๆ ที่เป็นเส้นทางทะลุเชื่อมต่อกับกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้เป็นผลจากน้ำทะเลหนุนสูงและมีมวลน้ำเหนือไหลลงมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นที่ระดับ 2.30 เมตร
THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจย่านท่าน้ำนนท์ พบว่าน้ำล้นตลิ่งและท่วมพื้นผิวการจราจร แต่รถยนต์ยังสามารถผ่านไปได้อย่างช้าๆ ส่งผลให้การจราจรติดขัดแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่เร่งด่วน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเตรียมกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำในพื้นที่หากระดับน้ำสูงกกว่านี้ และให้ข้อมูลว่าหากเปรียบเทียบกับปี 2554 ระดับน้ำเจ้าพระยายังถือว่าต่ำกว่าประมาณ 40 เซนติเมตร (ซม.)
สำหรับอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง กินพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดสมุทรปราการเข้ามาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านพระราม 3 บางรัก และนนทบุรี ขณะที่ สรรเสริญ เรืองฤทธิ์ วิศวกรไฟฟ้าชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานระบบโทรมาตร สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ระดับน้ำจะสูงต่อเนื่องถึงวันที่ 13-14 พฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่าน้ำจะสูงขึ้นไม่เกิน 2.30 เมตร ขณะเดียวกันลมหนาวที่คาดจะว่าจะมาถึงวันที่ 9-10 พฤศจิกายน อาจเป็นปัจจัยทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นได้อีก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและประชาชนที่อาศัยนอกแนวคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าระดับน้ำทะเลหนุน และปริมาณน้ำเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีตัวชี้วัดชัดเจน แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าให้พร้อมรับมือ ขณะเดียวกันบริเวณแยกพระราม 5 ถนนพิบูลสงคราม มีน้ำท่วมขังผิวการจราจร สูงประมาณ 20 ซม. แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวก ประชาชนต้องช่วยเหลือกันเองในการแจ้งเตือนกัน โดยเฉพาะวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างในพื้นที่กลายเป็นผู้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านจราจร และแจ้งเพื่อนร่วมทางว่าข้างหน้ามีน้ำท่วม