×

‘กรณ์’ ชี้ ‘5 สัญญาณ’ แบงก์โดดลงสนามคริปโตฯ สะท้อนอนาคตโลกการเงินกำลังเปลี่ยน แนะจับตาเม็ดเงินในตลาดหุ้น ย้ำผู้บริหารภาครัฐต้องตามให้ทัน

05.11.2021
  • LOADING...
Korn Chatikavanij

กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นถึง 5 สัญญาณสำคัญ หลังกลุ่มธนาคารซื้อกิจการ Crypto Exchange ว่า การที่กลุ่มธนาคารมาซื้อกิจการ Crypto Exchange ด้วยเงินมหาศาล ส่งสัญญาณสำคัญหลายข้อ

 

สัญญาณข้อแรก เป็นการยืนยันว่านายธนาคารมองว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นส่วนสำคัญใน ‘อนาคตการเงิน’ แน่นอน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่จะเกิดจากการ Synergy ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารปัจจุบันร่วมกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อการบริหารการลงทุนของนักลงทุนไทยในสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะมีมากขึ้น ซึ่งต้องติดตามต่อว่าจะทำให้เงินทุนหมุนเวียนในตลาดทุน (ตลาดหลักทรัพย์) ได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน เมื่อนักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นหรือได้รับการชี้ชวนจากสถาบันการเงินเดิมที่ตนเชื่อมั่นและคุ้นเคย

 

สัญญาณที่ 2 แนวโน้มจากที่ในอดีต ธนาคารพาณิชย์ขยายฐานธุรกิจด้วยการซื้อหรือควบรวมกันเอง จากนี้เราจะเห็นธนาคารพาณิชย์ซื้ออนาคตด้วยการลงทุนใน Alternative Finance (การเงินทางเลือกใหม่) ซึ่งแปลว่าธนาคารที่ขาดวิสัยทัศน์หรือขาดกำลังทุนมีแนวโน้มสูญพันธุ์สูง การตอบโต้ทางการแข่งขันระหว่างธนาคารพาณิชย์กันเองในเรื่องนี้ จะมีผลสำคัญในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมการเงินไทยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

 

สัญญาณที่ 3 เมื่อธนาคารพาณิชย์ขยับ ฝ่ายกำกับดูแลต้องเร่งขยับตาม ไม่ว่าจะเป็นแบงก์ชาติ หรือ ก.ล.ต ซึ่งวันนี้ยังเกี่ยงความรับผิดชอบกันอยู่ว่าใครมีหน้าที่คุมส่วนไหนของโลกดิจิทัล การจุดพลุโดยผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเอง ย่อมกระตุ้นการกำกับให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และการข้ามเส้นระหว่างเครื่องมือการเงิน Tradition กับยุคใหม่

 

ถ้ามองว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นส่วนสำคัญของเรื่องการเงินและทรัพย์สินดิจิทัลของโลก Metaverse ประเทศไทยเราก็กำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางของเมกะเทรนด์กระแสโลก โดยเอกชนภาคการเงิน 

 

สัญญาณที่ 4 ในภาพรวมเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทยที่เราเริ่มมี ‘ยูนิคอร์น’ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นกำลังใจที่ดีให้กับสตาร์ทอัพไทยอื่นๆ ได้สู้ต่อ การเกิดดีลนี้ย่อมส่งผลต่อ Ecosystem #Startup ไทย ให้ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น จะเห็นว่าสตาร์ทอัพไทยมีศักยภาพในตนเอง หากได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐ ไทยจะสามารถสร้างยูนิคอร์นรายต่อๆ ไปได้เร็วและจำนวนมาก ที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงได้

 

สัญญาณที่ 5 ในขณะเดียวกันความท้าทายเดียวที่ผมเป็นห่วงคือ กฎระเบียบจากฝ่ายกำกับที่ถูกขับดันจากผู้เล่นรายใหญ่เดิมจะต้องไม่เป็นการกีดกันโอกาสการเติบโตของสตาร์ทอัพรายย่อยด้วยเช่นกัน แต่ต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการแข่งขันแบบ #เศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ทั้งในประเทศเองและในตลาดโลก ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญและเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หรือการสร้าง #เศรษฐกิจดิจิทัล นี้ได้

 

ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองสัญญาณในฐานะรุ่นพี่จากโลกการเงิน จากอดีตคนกำกับนโยบายการคลังของชาติ และในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองที่มองว่า ‘เศรษฐกิจไทย’ อย่างไรเสียก็ต้องก้าวเข้าสู่ยุคการเงินดิจิทัลที่เต็มไปด้วยโอกาสและการท้าทาย สำคัญที่สุด ผู้บริหารภาครัฐต้องตามให้ทัน รู้ให้ลึก และสร้างประโยชน์ให้ตกแก่คนไทยให้ได้

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising