วันนี้ (31 ตุลาคม) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี แถลงเปิดตัวทีมโฆษกพรรค ประกอบด้วย สุขสันต์ แสงศรี หรือ นัท โฆษกด้านการเมืองและกระบวนการยุติธรรม, วิลาสินี แววคุ้ม หรือ ตูน ประสบการณ์สื่อสังคมออนไลน์กิจการสตรีและกลุ่มหลากหลายทางเพศ, จักรพงศ์ กลิ่นแก้ว หรือ อ๊อฟ โฆษกด้านความเหลื่อมล้ำและความแตกแยกในสังคมและเยาวชน และ ผศ.พิมพ์ณัฐชยา สัจจาศิลป์ หรือ ครูตา โฆษกด้านวิชาการ สื่อมวลชน และเศรษฐกิจ
นพ.วรงค์กล่าวว่า สำหรับการเปิดตัวทีมโฆษกพรรคไทยภักดีในวันนี้ เพื่อที่จะต้องการเป็นทีมงานที่จะสื่อสารกับประชาชนโดยตรง และขอยืนยันว่าพรรคไทยภักดีจะก้าวทีละก้าวอย่างมั่นคงและแน่นอน เพื่อให้พี่น้องประชาชนไร้ความกังวล รวมทั้งอีกไม่นานจะได้เห็นคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งทุกคนเห็นแล้วจะต้องตกใจและตะลึงอย่างแน่นอน
สำหรับทีมงานโฆษกพรรคไทยภักดีนั้น แต่ละคนมีสโลแกนประจำตัวคือ สุขสันต์มักจะพูดเสมอว่า ใช้ความจริงต่อสู้ การโกหกบิดเบือน เจอกันแน่, วิลาสินีมักพูดว่า เฟกนิวส์จะต้องหมดไปจากสังคมไทย, จักรพงศ์มักพูดว่า พวกชังชาติและพวกขอยกเลิกมาตรา 112 จะได้เจอกัน, ผศ.พิมพ์ณัฐชยามักพูดว่า ครูจะทำให้หนูมีอนาคตที่ดี เดินไปกับครูนะลูก ซึ่งสโลแกนของทีมโฆษกสร้างความประทับใจให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีการมองว่าพรรคไทยภักดีคืออะไหล่ มีความคิดเห็นอย่างไรนั้น นพ.วรงค์ตอบว่า อะไหล่คือส่วนประกอบ แต่เราจะเป็นพรรคหลักของประเทศไทยและพร้อมจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะจัดการบุคคลที่ออกมาล้มสถาบันฯ อย่างไร นพ.วรงค์ตอบว่า ที่ผ่านมาก็มีการต่อสู้ทุนล้มล้างตลอด ไม่ว่าจะเป็นเอาความจริงมาต่อสู้หรือเอากฎหมายหลักมาต่อสู้ แต่แค่ 2 หลักคงไม่เพียงพอ ต่อไปนี้จะต้องทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี รวมทั้งแสดงความซื่อสัตย์สุจริตให้พี่น้องได้เห็น และนี่คือหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความมั่นคง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลขอให้ดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องของน้ำมัน บัตร 2 ใบ และไทยคมได้หรือไม่ นพ.วรงค์ตอบว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว ในสัปดาห์หน้าตนจะแถลงเกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน ซึ่งตอนนี้รอข้อมูลอีกประมาณ 1 ส่วนจึงจะแล้วเสร็จ ส่วนเรื่องไทยคม กระบวนการผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินจบแล้ว ซึ่งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ตนจะเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง โดยหลังจากนี้ทางพรรคจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ และขอย้ำว่าเราไม่ใช่พรรคอะไหล่ แต่เราคือพรรคหลักของประเทศไทย