หลังได้ข่าวว่า Imagine Dragons จะมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยเป็นครั้งที่สองในวันที่ 11 มกราคม 2561 THE STANDARD ก็ถือโอกาสส่งคำถามไปสัมภาษณ์วงดนตรีเจ้าของรางวัลแกรมมี่ทันที โดยพูดคุยถึงจุดเริ่มต้นของวงในช่วงเวลาที่ยากลำบาก รวมถึงผลงานอัลบั้มชุดล่าสุด Evolve (2017) ที่มีซิงเกิลดังอย่าง Thunder ซึ่งใครหลายคนสามารถร้องตามหลังจากได้ยินเพลงนี้แค่ครั้งเดียว

ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น Imagine Dragons เป็นที่รู้จักในวงกว้างครั้งแรกจากซิงเกิล It’s Time อัลบั้ม Night Visions (2012) เดิมทีเพลงนี้กระแสตอบรับไม่ได้เปรี้ยงเท่าไรนัก จนกระทั่งซีรีส์ Glee นำเพลงไปคัฟเวอร์ใหม่ ทันใดนั้นผู้คนทั่วทุกสารทิศก็กระหน่ำเข้าฟังเพลง It’s Time จนกลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ ไม่นานนัก Imagine Dragons ก็กลายเป็นวงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงเวลานั้น พร้อมมีซิงเกิลที่ปล่อยออกมาภายหลัง ได้แก่ Radioactive และ Demons ที่กระแสดีไม่แพ้กัน

เพลง It’s Time

จากกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด Imagine Dragons ก็ได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกและในหลายๆ ประเทศจนบัตร sold out ภายในไม่กี่นาที พวกเขามีฐานแฟนคลับทั่วทุกมุมโลกที่พร้อมจะสนับสนุนไม่ว่าพวกเขาจะเลือกเส้นทางไหนก็ตาม โดย Imagine Dragons ได้ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ถึงกระแสความโด่งดังที่ทางวงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า

“เรามีความทะเยอทะยาน แต่ยอมรับว่าไม่เคยฝันว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เลย เราโชคดีมากๆ เพราะมีศิลปินเก่งๆ หลายคนซึ่งพวกเขาอาจไม่ได้รับโอกาสเหมือนเรา นั่นคือเหตุผลที่เราทุ่มเททำงานหนักเพื่อแฟนเพลง”

เพลง I Bet My Life

ความสำเร็จจากอัลบั้มชุดแรก Night Visions เปิดทางให้ Imagine Dragons มีคิวทัวร์คอนเสิร์ตยาวไปตลอดทั้งปี แต่ท่ามกลางชื่อเสียงและความโด่งดังกลับมีความกดดันย้อนกลับเข้าตัว พวกเขานิยามว่าตอนนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของสมาชิกทุกคน Imagine Dragons จึงนำความรู้สึกเหล่านั้นถ่ายทอดลงในอัลบั้มชุด Smoke + Mirrors (2015) และหลังจากออกอัลบั้มได้ไม่นาน แฟนเพลงชาวไทยก็ได้เฮดังๆ หลัง Imagine Dragons ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้ม Smoke + Mirrors ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แฟนเพลงชาวไทยได้ดูคอนเสิร์ต Imagine Dragons สดๆ แบบไม่ผ่านยูทูบ

“Smoke + Mirrors เขียนขึ้นตอนพวกเราต้องเผชิญความยากลำบาก โดยเฉพาะแดน (ร้องนำ) ช่วงเวลานั้นพวกเรารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่หลังจากนั้นพวกเราเริ่มโหยหาความสงบมากขึ้น ต้องการเพิ่มสีสันมากขึ้น ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นบทเพลงในอัลบั้ม Evolve ซึ่งสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทั้งทัศนคติส่วนตัวและดนตรี มันอาจจะยากในการนิยามประเภทของเพลง แต่คุณจะรู้สึกได้ว่าขั้นตอนของอัลบั้มนี้มีความมินิมัล”

อัลบั้มชุดที่สาม Evolve ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางครั้งใหญ่โดยการเพิ่มสีสันความแปลกใหม่เข้าไปในเพลง ดังที่เราเห็นได้ในซิงเกิล Believer และ Thunder นอกเหนือจากนั้น ในเพลง Whatever It Takes ทางวงยังซ่อนปริศนาในมิวสิกวิดีโอไว้ให้แฟนเพลงได้ค้นหา โดยในฉากแรกมีการใส่ตัวเลข (702) 800-2422 ซึ่งถ้าโทรเข้าเบอร์นี้​จะได้ยินเสียงของแดนพูดว่า​ “Whatever It Takes Go” โดยแฟนเพลงต้องแก้ปริศนาไปเรื่อยๆ ซึ่งหากใครทำสำเร็จก็จะได้เดโมของเพลง 30​ Lives ไปฟังกัน โดย Imagine Dragons ได้อธิบายถึงประเด็นการซ่อนปริศนาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า

“เราซ่อนปริศนาไว้เต็มไปหมด บางทีอาจมากเกินกว่าที่คนอื่นจะคาดคิดได้ เราชอบซ่อนปริศนาไว้ในอาร์ตเวิร์ก ดนตรี และมิวสิกวิดีโอ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราอยากเชื่อมต่อกับแฟนเพลงด้วยภาษาที่ทั้งสองฝั่งเข้าใจเหมือนกับเป็นโค้ดลับ เราปลื้มที่หลายคนทุ่มเทหาปริศนาและโค้ดลับ พยายามตีความสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ เรามีแฟนเพลงที่ฉลาดมากๆ”

เพลง Whatever It Takes

ตลอดทั้งปีนี้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มีเรื่องแย่ๆ เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือโศกนาฏกรรมในมิวสิกเฟสติวัลที่ลาสเวกัส ซึ่งมีมือปืนบุกเดี่ยวกราดยิงผู้คนจากห้องพักชั้นบนของโรงแรม เหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 58 คน บาดเจ็บ 515 คน ถือเป็นเหตุสังหารหมู่ที่เลวร้ายที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยความที่ Imagine Dragons เป็นวงที่มาจากลาสเวกัส พวกเขายังรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้คือการมีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อช่วยเยียวยาผู้คน

“เรายังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในลาสเวกัส เราตัดสินใจขึ้นโชว์การกุศลที่ลาสเวกัสวันที่ 1 ธันวาคมร่วมกับ The Killers, David Copperfield, Penn & Teller, Cirque du Soleil และคนอื่นๆ อีกมากมายที่มาร่วมด้วย เราอยากให้ทุกคนที่ลาสเวกัสรู้ว่าเราไม่ได้ไปไหน เราจะอยู่กับพวกคุณ”

แต่เรื่องที่ดีของปีนี้สำหรับแฟนเพลง Imagine Dragons คงหนีไม่พ้นการทัวร์คอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มชุด Evolve โดย Imagine Dragons จะมาเยือนไทยอีกครั้งในวันที่ 11 มกราคมที่จะถึงนี้ ซึ่งทางวงได้ฝากข้อความมาฝากแฟนเพลงไทยโดยตรง และแน่นอนว่าคอนเสิร์ตนี้แฟนเพลงตัวจริงห้ามพลาด

“ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้เราได้ออกแบบทิศทางใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังมีการดึงเพลงจากอัลบั้มก่อนๆ เข้ามาประกอบให้ดียิ่งขึ้น เราอยากให้ทุกคอนเสิร์ตของเรามีความพิเศษและแตกต่าง คุณจะไม่มีวันลืมคอนเสิร์ตครั้งนี้แน่นอน”

เพลง Thunder