ถึงแม้เสื้อผ้า รูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไป แต่ ‘เนื้อใน’ ที่แค่ได้ยินเสียงเอื้อนที่ไม่มีใครเลียนแบบ เสียงดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อหายืนเคียงข้างกลุ่มคนตัวเล็กๆ ที่มักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอ ก็ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าเพลงที่เราได้ยินอยู่นี้เป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก Labanoon
ท้าพายุ คือซิงเกิลลำดับที่ 5 จากอัลบั้มชุดที่ 9 เดลิเวอรี่ ของ Labanoon วงมหาชนขวัญใจ ‘คนสู้’ ที่พูดแทนความรู้สึกของคนส่วนมาก และสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยง
“ฝนกำลังจะมา ฟ้าพลันดูสลัว โลกมืดมนไปทั่ว ยากหยั่งรู้ปลายทาง”
ตั้งแต่เนื้อเพลงท่อนแรกที่เริ่มต้นด้วยความสับสน ต่อด้วยดนตรีหนักๆ กลองแน่นๆ เสียงกีตาร์บาดหู เหมือนพายุแห่งอุปสรรคที่พุ่งเข้ามาซัดแบบไม่ทันตั้งตัว
พร้อมกับภาพในมิวสิกวิดีโอ จำลองสถานการณ์กองถ่ายที่มีกิมมิกน่ารักๆ คือได้ หมูปิ้ง-ศุภชัย บุญกระจ่าง หรือ ‘เชฟหมู ณ ป้อมยาม’ มารับบทเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ ที่เริ่มจากมาบอก เมธี, อนันต์ และสมเมย์ว่า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแปลกตานิดหน่อย ก่อนที่จะให้คนดูไปตัดสินกันเองว่า ‘นิดหน่อย’ ที่ว่านั้นเป็นอย่างไร
นอกจากบทพูดที่น่ารัก อีกความเชื่อมโยงหนึ่งที่น่าสนใจคือ การที่ในชีวิตจริง หมูปิ้งคือตัวแทน ‘คนสู้’ ที่ไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัดในชีวิต เขาสร้างตัวตนขึ้นมาจากการนั่งทำหน้าที่ในป้อมยาม หยิบหม้อหุงข้าวมาทำอาหาร สร้างความสุขให้ผู้คนจนกลายเป็นดาว TikTok
เช่นเดียวกับในมิวสิกวิดีโอ ที่รับรู้ข่าวร้ายตั้งแต่ก่อนเริ่มงานว่าแม่ป่วยต้องเข้าห้อง ICU เขาเก็บความเศร้าไว้ในใจ เดินหน้าทำงานที่คอยเอนเตอร์เทนต์และบิลด์อารมณ์สมาชิกวง Labanoon ทั้ง 3 คน ตามที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่สุด พร้อมๆ กับเนื้อร้องท่อนต่อมาที่พาคนฟังออกจากความสับสนสู่ความเป็นจริงในชีวิต
“อยู่ใต้สายฝนย่อมเปียกปอน อยู่ใต้แดดร้อนย่อมแผดเผา จะสุขหรือเศร้าต้องมีสักคราว แวะเวียนเข้ามา”
เนื้อเพลงและภาพในมิวสิกวิดีโอค่อยๆ ฉายภาพการต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิตจริง โดยมีหมูปิ้งเป็นตัวแทนคนที่ต่อสู้กับแดดร้อนและสายฝน ที่แสดงออกผ่านการทำงานในกองถ่ายที่ไม่เคยมีอะไรง่าย
ก่อนที่ทุกคนจะได้เห็นภาพที่สวยๆ ในมิวสิกวิดีโอเวอร์ชันสมบูรณ์ ทีมงานทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้าต้องทำงานแข่งกับเวลาและข้อจำกัดมากมาย เพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ดีที่สุด ถึงแม้จะอยู่ในสถานะหรืออาชีพที่แตกต่าง แต่ทุกคนก็ล้วนผ่านการต่อสู้แบบนี้มาทั้งนั้น
“ทุกครั้งต้องกล้าเสี่ยง ทุกครั้งต้องกล้าใส่ ล้มลุกคลุกคลานกี่ครั้งแม้มีขวากหนามจะฝ่ามันไป พายุที่โหมซัด คือฟ้าดินกำลังวัดใจ ”
ทั้งเนื้อเพลง ดนตรี และภาพในมิวสิกวิดีโอเพลง ท้าพายุ ดำเนินไปอย่างปลุกเร้า ทรงพลัง ไปจนถึงช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องที่บีบคั้นถึงขีดสุด การถ่ายทำไม่เป็นไปตามภาพที่ผู้กำกับคาดหวัง
หมูปิ้งที่เป็นเหมือนคนกลางระหว่างผู้กำกับและทีมนักแสดง ต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากหลายครั้งในชีวิตจริง ที่ในสถานการณ์ที่คิดว่ายากลำบากจะมีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่ารออยู่เสมอ
หมูปิ้งสะดุดสายไฟล้มหน้าคว่ำ พร้อมกับภาพที่ตัดเข้าสู่เวทีมวย สังเวียนแห่งชีวิต ที่หมูปิ้งคือนักชกที่ถูกอุปสรรคน็อกลงไปอยู่บนพื้น โดยมีภาพผู้กำกับสุดเฮี้ยบยืนอยู่ข้างหน้า
“จะล้มเท่าไหร่ จะลุกขึ้นใหม่”
แน่นอนว่าการหลับตาแล้วนอนต่อไปคือทางเลือกที่ง่ายและสบายที่สุด แต่หมูปิ้งไม่สามารถทำอย่างนั้น เพราะความพ่ายแพ้ของเขาหมายถึงครอบครัวของเขาต้องพ่ายแพ้ตามไปด้วย
หมูปิ้งลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง กัดฟัน รวมพลัง รัวหมัดสู้อุปสรรคแบบไม่ยอมแพ้ ณ วินาทีสุดท้ายแห่งการตัดสิน เช่นเดียวกับภาพในกองถ่ายที่เขาอดทนความเจ็บปวดไปลุยงานกองถ่ายในฉากท้าพายุช่วงสุดท้าย
สิ่งหนึ่งที่เราชอบมากๆ ในตอนสุดท้าย คือภาพที่ตัดสลับไปมา ตอนที่ผู้กำกับบนเวทีมวยถูกต่อยจนลม ซ้อนกับภาพของผู้กำกับในกองถ่ายที่นั่งลงเมื่อฉากสุดท้ายถ่ายทำไปได้ด้วยดี
รอยยิ้มด้วยความสะใจของผู้กำกับ เหมือนบอกเราว่า แม้กระทั่งอุปสรรคก็เกิดขึ้นมาเพื่อท้าทายและรอให้เราเอาชนะมันได้ในที่สุด
รวมทั้งฉากสุดท้ายที่สมาชิก Labanoon มาอาสาพาหมูปิ้งไปส่งที่โรงพยาบาล ก็ช่วยยืนยันมุมที่น่ารักๆ ในการเป็นเพื่อนของคนตัวเล็กๆ เหล่านี้อยู่เสมอ
และในชีวิตจริง ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้มาขับรถรับ-ส่งเราไปยังที่ต่างๆ แต่ก็ไม่เคยหยุดที่ส่งมอบกำลังใจในการ ‘ท้าพายุ’ ผ่านบทเพลงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเลยจริงๆ