สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ เตรียมจะประกาศขึ้นอัตราภาษีกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain Tax) เป็น 25% จาก 20% ในปัจจุบัน โดยนายกรัฐมนตรีเตรียมกล่าวสุนทรพจน์นโยบายครั้งแรกในรัฐสภา
โคโซ ยามาโมโตะ สมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย ที่ทำงานใกล้ชิดกับคิชิดะ กล่าวกับ Bloomberg ว่า ตอนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องใช้เงินมากกว่า 30 ล้านล้านเยน (ราว 2.69 แสนล้านดอลลาร์) ในการใช้จ่ายทางการคลังเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมกล่าวสุนทรพจน์นโยบายครั้งแรกในรัฐสภาในวันศุกร์ เพื่อให้ได้รับการยอมรับ และเสียงสนับสนุนเพิ่มหลังจากคว้าชัยชนะจากพรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งภายในเวลา 3 สัปดาห์
“ความคิดที่ว่าผู้ถือหุ้นควรได้ทุกอย่างเป็นเรื่องเหลวไหล การตรวจสอบภาษีกำไรจากการขายหุ้นจะเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของรายได้ของประเทศ และอัตราภาษีที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ก็ไม่ใช่อัตราที่สูงจนต้องกังวล” ยามาโมโตะกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยการเพิ่มอัตราค่าจ้างงาน และภาษีกำไรจากการลงทุน ซึ่งเป็นนโยบายที่ยังไม่เป็นที่พอใจของสาธารณชนมากนัก และถูกกล่าวหาว่าจะฉุดตลาดหุ้น
ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้สะท้อนว่า คิชิดะไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักในการได้รับเลือกให้เป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ โดยโพลแสดงผลว่าคิชิดะได้รับการสนับสนุนต่ำสุดสำหรับการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 นั้นปรับตัวลดลงราว 8 วันทำการ ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 จนเกิดเทรนด์ #Kishida Shock ในทวิตเตอร์ญี่ปุ่นเมื่อกลางสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ คิชิดะได้ให้คำมั่นแล้วว่าจะใช้เงินหลายสิบล้านล้านเยนในมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากยกเลิกภาวะฉุกเฉินสำหรับควบคุมสถานการณ์โควิดเมื่อสิ้นเดือนกันยายน โดยคิชิดะได้กล่าวไว้ว่าจะตั้งคณะกรรมการเพื่อหาวิธีการกระจายของการเติบโตของเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และลดความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น ‘ทุนนิยมใหม่’
อ้างอิง: