จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ล่าสุดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.27 หมื่นรายในวันนี้ (20 กันยายน) จากระดับ 1.6 หมื่นราย เมื่อวันที่ 1 กันยายน ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอแผนการเปิดประเทศระยะ 2 ให้ ศบค. พิจารณาในวันที่ 23 กันยายนนี้ ครอบคลุม 5 จังหวัดเพิ่มเติม (กรุงเทพฯ, ชลบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่) โดยมีแผนจะเปิดในวันที่ 1 ตุลาคม โดยในกรณีที่ดีที่สุด รัฐมนตรีคาดว่าจะสามารถเปิดกรุงเทพฯ ได้ในวันที่ 15 ตุลาคม หากจำนวนประชากรได้รับวัคซีน 2 โดสมากกว่า 70% ภายในวันที่ 5 ตุลาคม
เอกสิทธิ์ คุณาดิเรกวงศ์ นักวิเคราะห์หุ้น บล.กรุงศรี ให้ความเห็นเรื่องนี้ไว้ว่า หากวิเคราะห์อ้างอิงอัตราการฉีดวัคซีนล่าสุด 14 วันในกรุงเทพฯ (รวมทั้งโดส 1 และ 2 9.45 หมื่นโดสต่อวัน และเฉพาะโดส 2 6.9 หมื่นโดสต่อวัน) สะท้อนจำนวนประชากรรับวัคซีนโดส 2 ในกรุงเทพฯ จะแตะระดับ 70% ภายในวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งทำให้โอกาสในการเปิดพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นปลายเดือนตุลาคม หรือต้นเดือนพฤศจิกายนมากกว่าจะเป็นกลางเดือนตุลาคม
ในภาพรวมประเทศไทย อัตราการฉีดวัคซีนโดส 2 จะแตะระดับ 50% ภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน และ 70% ภายในวันที่ 23 ธันวาคม (รวมโดส 1 และ 2 6.37 แสนโดสต่อวัน และเฉพาะโดส 2 3.7 แสนโดสต่อวัน) ซึ่งจะหนุนให้มีการผ่อนคลาย เพิ่มข้อบังคับมากขึ้นในไตรมาส 4/2564 และเดินทางได้โดยไม่กักตัวในไตรมาส 1/2565 รวมถึงมีวัคซีนมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2564 อีก 23-30 ล้านโดสต่อเดือน (7.4-9.67 แสนโดสต่อวัน)
สิ่งที่น่าสนใจคือ การยกตุรกีและมัลดีฟส์มาเป็นกรณีศึกษาในเรื่องของ V-Shape โดยตุรกีนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังรัสเซียอนุญาตเที่ยวบินสู่ตุรกีวันที่ 22 มิถุนายน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศของตุรกีใน เดือนกรกฎาคมฟื้นตัวสู่ระดับ 4.3 ล้านคน (เหลือเพียง -34% จากระดับในปี 2562) จากระดับต่ำกว่าล้านในช่วงเดือนมกราคม ถึง พฤษภาคม 2564 นอกจากนี้ภาพในตลาดมัลดีฟส์ยังดูน่าตื่นเต้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนสิงหาคม 2564 เพิ่มขึ้น 3% จากปี 2562 หลังการอนุญาตนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนกรกฎาคม
โดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวรัสเซียทั้งในตุรกีและมัลดีฟส์ แม้จะมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ (โดส 2 มีอยู่ราว 28% ณ วันที่ 17 กันยายน) สร้างความประหลาดใจ เพราะเป็นอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากนักท่องเที่ยวยุโรปทั้งในตุรกีและมัลดีฟส์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 77% และ 64%YTD นอกจากนี้จำนวนเที่ยวบินในภูมิภาคหรือในประเทศปลายทางนักท่องเที่ยวสำคัญ สะท้อนอุปสงค์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุโรปแข็งแกร่ง หลังอัตราการฉีดวัคซีนเข็ม 2 แตะระดับ 63-76%
อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรนำตุรกีและมัลดีฟส์ออกจากกลุ่มประเทศพื้นที่สีแดงตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน โดยนักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องกักตัวในโรงแรมเมื่อเดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ ขณะที่เราคาดว่าการฟื้นตัวในรูปแบบ V-Shape ในตุรกีและมัลดีฟส์เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในระยะ Long-Haul สองประเทศนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีว่าประเทศไทยอาจถูกนำออกจากกลุ่มประเทศพื้นที่สีแดงใน 4Q เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (50% ในวันที่ 14 พฤศจิกายน และ 70% ใน 23 ธันวาคม)
ทั้งนี้มีการประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่ 3 แสนคน, 14 ล้านคน, 34 ล้านคน, 40 ล้านคน ในปี 2564-2567 ตามลำดับ