สื่อต่างประเทศรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมประชุมวาระเร่งด่วนในวันนี้ (16 สิงหาคม) กรณีเหตุความไม่สงบในอัฟกานิสถาน ประชาคมโลกต่างประณาม กลุ่มตาลีบันใช้ความรุนแรง บุกยึดและเข้าแผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมหลายพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ภายหลังรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจถอนกำลังทางทหารออกจากอัฟกานิสถาน
โดยล่าสุด กลุ่มตาลีบันได้บุกกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ยึดทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมประกาศชัยชนะเหนือรัฐบาลอัฟกัน เตรียมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยประกาศจะเริ่มต้นประชุมหารือกับชาวอัฟกันและสะสางปัญหาที่สั่งสมภายในประเทศมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงาน อัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถานเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์กลุ่มตาลีบันประชิดกรุงคาบูลและการเจรจาเพื่อเปลี่ยนผ่านอำนาจ เบื้องต้น สำนักงานประธานาธิบดีปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ผู้นำรัฐบาลอัฟกันเดินทางไปยังที่ใด
บรรดาผู้นำรัฐบาลในชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต่างกำลังพิจารณาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือชาวอัฟกัน โดยเบื้องต้นยังไม่มีผู้นำประเทศใดในประชาคมโลกให้การรับรองความชอบธรรมของการประกาศชัยชนะเหนือรัฐบาลอัฟกันของกลุ่มตาลีบัน ส่วนใหญ่ต่างประณามและแสดงจุดยืนจะไม่รับรองรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยกลุ่มตาลีบันนี้
ก่อนหน้านี้ มิเชล บาเชเล็ต ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประณามเหตุความรุนแรงภายในอัฟกานิสถานที่ก่อขึ้นโดยกลุ่มตาลีบัน ว่าเป็นอาชญากรรมสงครามและเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ส่งผลให้ชาวอัฟกันจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว เกิดการอพยพหนีตายเป็นจำนวนมาก พลเมืองกว่า 5 ล้านคนกลายเป็นคนพลัดถิ่นภายในประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
โดยสหประชาชาติมีเจ้าหน้าที่ชาวอัฟกันราว 3,000 ราย และเจ้าหน้าที่ต่างชาติอีก 720 รายในอัฟกานิสถาน ซึ่งราวครึ่งหนึ่งของเจ้าหน้าที่ต่างชาติปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายนอกประเทศ นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด ขณะนี้สหประชาชาติระบุ ยังไม่มีแผนที่จะอพยพเจ้าหน้าที่ออกนอกประเทศแต่อย่างใด ด้าน สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกประจำตัว อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติระบุ องค์การกำลังประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในอัฟกานิสถานเป็นรายชั่วโมงต่อชั่วโมง
ภาพ: AFP
อ้างอิง:
