บ่อยครั้งที่พระเอกหล่อไร้กาลเวลาอย่าง เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ หรือ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี มักจะได้รับฉายาว่าเป็นพระเอกแวมไพร์ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลให้ รัก นิรันดร์ จันทรา เลือกให้เคน ธีรเดช มารับบทแวมไพร์มันซะเลย ในขณะที่วงการบันเทิงไทยไม่ได้มีพื้นที่ให้นางเอกแวมไพร์สักเท่าไร เมื่อถึงวัยหนึ่งนักแสดงหญิงไทยมักหาบทยากขึ้น ถ้าไม่รับบทสาวใหญ่กับเรื่องราวรักต่างวัย ก็อาจต้องเลื่อนขั้นรับบทแม่ไปเลย จริงอยู่ว่าพระเอกนางเอกมีอายุการใช้งาน แต่ดูเหมือนวันหมดอายุของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะไม่เท่ากัน
ความที่สังคมไทยค่อนข้างเปิดรับความรักระหว่างชายอายุมากกับสาวอายุน้อยเป็นเรื่องโรแมนติก อย่างที่เราได้เห็นในนิยายที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครหลายๆ เรื่อง การที่ได้เห็นนักแสดงชายอายุมากกว่านักแสดงหญิงจึงเป็นเรื่องปกติ เช่น เมื่อเห็น ติ๊ก เจษฎาภรณ์ แสดงคู่กับ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส หรือ เคน ธีรเดช แสดงคู่กับไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ก็ดูเข้ากันดี
ติ๊ก เจษฎาภรณ์ แสดงคู่กับ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส
เคน ธีรเดช แสดงคู่กับ ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร
ในขณะที่แอน ทองประสม เมื่อต้องมาจับคู่กับ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ใน กะรัตรัก หรือ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ แสดงคู่กับ เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค ใน 30 กำลังแจ๋ว ความต่างของวัยจะกลายเป็นประเด็นหลักของเรื่องราวทันที ข้อดีก็คือช่วยย้ำแนวคิดว่าวัยไม่ใช่ข้อจำกัดของความรัก แต่ข้อเสียก็คือมันตอกย้ำ ‘ความอาวุโส’ ของฝ่ายหญิงได้เหมือนกัน
อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ แสดงคู่กับ เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค ใน 30 กำลังแจ๋ว
แอน ทองประสม กับ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ในกะรัตรัก
การเป็นนักแสดงก็มี Career Path หรือความเจริญในหน้าที่การงานไม่ต่างจากการทำงานในองค์กร แต่อาจจะมีรายละเอียดมากกว่านั้น คือการเลือกรับงานให้เหมาะกับช่วงเวลาที่อยู่ในวงการ เราจึงได้เห็นวัฏจักรของนักแสดงหญิงคือก้าวเข้ามารับบทนางเอกใสๆ สู่การเป็นนางเอกดราม่า ข้ามไปสู่บทร้าย ซึ่งต้องยืนระยะในแต่ละช่วงเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในจุดนี้ผู้จัดการส่วนตัวของดารามีส่วนมากในการเลือกรับงาน เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ในแต่ละช่วงเวลา ก่อนจะข้ามช่วงวัยไปสู่บทแม่ ที่หากรับเพียงครั้งเดียวก็อาจจะหมายถึงการไม่ได้กลับมารับบทที่เหมาะสมกับอายุอีกเลย อย่างที่ แอน ทองประสม เคยปฏิเสธการสวมบทเดิมในภาพยนตร์เรื่อง The Letter จดหมายรัก ในภาคต่อเรื่อง Timeline จดหมาย ความทรงจำ ซึ่งต้องแสดงเป็นแม่ของเจมส์ จิรายุ (ถ้าเธอรับเล่นเราก็คงรู้สึกแปลกๆ ที่จะได้ดูทั้งคู่กลายเป็นคู่รักในกะรัตรัก) หรือ อั้ม พัชราภา เคยประกาศว่าจะไม่รับบทแม่ เพราะอยากให้คนจำภาพนางเอกของเธอไว้ตลอดกาล
แม้ระยะหลังเธอจะยอมรับเล่นเพลิงพระนาง ซึ่งในช่วงท้ายต้องกลายเป็นแม่ แต่ก็เป็นตัวละครเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นต้น จริงอยู่ว่านักแสดงต้องแสดงได้ทุกบทบาท แต่จะตำหนิว่าเลือกบทเพราะเรื่องมากก็ไม่ได้ เพราะมันหมายถึงพอร์ตฟอลิโอเพื่อช่วยรักษาสถานะเดิมเอาไว้ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ก็อาจจะต้องยอมก้าวขึ้นไปรับบทที่โตกว่า แต่ยังคงมีส่วนสำคัญของเรื่อง เช่น ในกรณีของ ธัญญ่า-ธัญญาเรศ รามณรงค์ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับอั้มและแอน แต่ก็ก้าวขึ้นไปรับบทคุณแม่ยังสาวที่มีส่วนสำคัญในการเดินเรื่องทั้งใน ตามรักคืนใจ, เลือดรักทระนง, เกมเสน่หา ฯลฯ ซึ่งถือว่าธัญญ่าเป็นคุณแม่ในละครที่งานชุกเอามากๆ ทีเดียว
ละครเรื่องเพลิงพระนาง
อย่างไรก็ดี วัฏจักรความเป็นนางเอกก็อาจจะไม่ใช่กฎตายตัวเสมอไป อย่างกรณีของ พลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ ที่ได้รับบทแรงๆ แซ่บๆ มาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีดี และเพิ่งมีคนหยิบยื่นบทคอเมดี้ให้ในช่วงท้ายๆ ของชีวิตในวงการละครทีวีนี่เอง เหตุผลใหญ่ๆ ก็น่าจะมาจากการเลือกรับบทร้ายสลับดี ถ้าร้ายก็ต้องร้ายให้เด่น ถ้าเป็นนางเอกก็เป็นนางเอกเทาๆ มีมิติ อีกทั้งไม่อยู่กับบทใดบทหนึ่งนานเกินไป ทำให้ไม่ติดภาพไปทางเดียว แบบเดียวกับนักแสดงฮอลีวูดอย่าง Charlize Theron ที่รับแสดง Aeon Flux หลังจากได้รับออสการ์จาก Monster เพื่อลบภาพฆาตรกรสาวร่างใหญ่ออกไปจากหัวคนดู หรือ Hilary Swank แสดงใน P.S. I Love You ให้คนดูรู้ว่าเธอก็เล่นหนังใสๆ ได้ ไม่ได้เป็นแค่นักแสดงสายรางวัลเพียงอย่างเดียว
พลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์
ความจริงอันปวดใจอีกอย่างที่เหมือนจะเชย แต่ก็ยังมีผลต่อความรู้สึกของคนดู ก็คือการแต่งงานของดารานักแสดง แม้จะไม่รุนแรงเท่าในอดีตที่ถ้ารู้ว่ามีแฟนมีครอบครัว ความนิยมจะตกลงทันที แต่ความรู้สึกของคนดูต่อนักแสดงชายกับนักแสดงหญิงก็แตกต่างกัน ยิ่งถ้ามีลูกแล้ว การจะกลับมาเล่นละครอีกครั้งก็ต้องอยู่ในบทที่ดูโตขึ้นหรือใกล้เคียงกับชีวิตจริง อย่างเร็วๆ นี้ มาร์กี้-ราศรี บาเลนซิเอก้า จิราธิวัฒน์ จะกลับมาเล่นละครอีกครั้งใน มามี้ที่รัก ก็ต้องสวมบทเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคู่กับ มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ในขณะที่เรื่องนี้อาจไม่ใช่ปัญหาของ พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน หรือ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่หลังแต่งงานก็ยังรับบทพระเอกแบบเดิมได้อย่างสบายๆ
มาร์กี้-ราศรี บาเลนซิเอก้า จิราธิวัฒน์ ในมามี้ที่รัก
ผู้เขียนเชื่อว่าสิ่งที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของนักแสดงได้ก็คือ บทที่หลากหลายกว่าเดิมเพื่อจะได้ละครที่สะท้อนชีวิตของคนทุกกลุ่มทุกวัย ยิ่งในยุคนี้คนอายุ 40+ ขึ้นไป ก็ไม่ใช่ว่าจะแก่จนหมดความโรแมนติก ซึ่งก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องมีกับหนุ่มรุ่นน้องเท่านั้น เพียงแต่คนดูเปิดใจ เชื่อว่าเราจะได้เห็นนักแสดงหญิงยอดฝีมือวาดลวดลายได้อย่างประทับใจแน่นอน