เว็บไซต์ข่าว Bloomberg รายงานอ้างแหล่งข่าวนิรนามวงใน 3 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผชิญการสืบสวน เปิดเผยว่า ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังเตรียมเดินหน้าตรวจสอบสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Tether โดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการบริหารของ Tether จะเข้าข่ายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงธนาคาร ด้วยการจงใจปกปิดข้อมูลการทำธุรกรรมของบริษัทว่ามีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคริปโตฯ จากทางธนาคารในช่วงหลายปีก่อนตอนที่ Tether เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน
รายงานระบุว่า หากทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เห็นว่ามีมูล จะส่งผลให้ต้องมีการตั้งข้อหาดำเนินคดีทางอาญากับทางผู้บริหารของ Tether และกลายเป็นคดีความทางอาญาครั้งแรกที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินการกับธุรกิจในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งจะบ่งชี้ถึงพัฒนาการที่สำคัญต่อทิศทางแนวโน้มการจัดการรับมือกับบรรดาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ของทางการสหรัฐฯ
ทั้งนี้ Tether ถือเป็นผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดของโลก และได้รับความนิยมสูงที่สุดในตลาด โดยตัวเหรียญได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็นแนวป้องกันภาวะการแกว่งตัวของราคาในตลาด ทำให้ Tether ถือเป็นสกุลเงินในอุดมคติของนักลงทุนในการซื้อขายเหรียญที่มีความผันผวนในตลาด ซึ่งรายงานจาก CoinGecko พบว่า ปัจจุบัน Tether คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับที่ 3 ที่ 6.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อีเมลแถลงการณ์ของทาง Tether ระบุว่า บริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติเพื่อคงสถานะผู้นำตลาดต่อไป ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นที่จะให้ความร่วมมือกับทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพื่อพิสูจน์ความโปร่งใส ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมา Tether มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นและทำงานร่วมกับหน่วยงานทางกฎหมายของรัฐมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับคดีความและการตรวจสอบโดยหน่วยงานรัฐครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ Tether แต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้ เลติเซีย เจมส์ ทางอัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก ได้ดำเนินคดีกับ iFinex บริษัทแม่ของ Tether และเจ้าของแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตฯ Bitfinex เมื่อเดือนเมษายน ปี 2019 ฐานจงใจปิดบังกรณีสูญเงินมูลค่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่เชื่อมโยงกับเรื่องอื้อฉาวของบริษัท Crypto Capital ด้วยการนำ USDT มาใช้เพื่อเอาตัวรอด ซึ่งทาง iFinex เห็นชอบและยินยอมจ่ายค่าปรับเป็นเงินมูลค่า 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อยุติคดี โดยไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
เจสซี พราวด์แมน (Jesse Proudman) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาคริปโต Makara Digital แสดงความเห็นต่อทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า ผลลัพธ์ของการสืบสวนตรวจสอบในครั้งนี้ จะปูทางสู่การยกระดับการกำกับดูแลและตรวจสอบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin ทั้งหมดของทางหน่วยงานรัฐ รวมถึงสร้างมาตรฐานความโปร่งใสของสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการซื้อขาย การโอนย้าย หรือการนำสินทรัพย์จริง เช่น สกุลเงินดอลลาร์ มาเปรียบเทียบมูลค่ากับ Stablecoin
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนหนึ่งรวมถึง เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความวิตกกังวลต่อบทบาทของ Stablecoin ที่มีต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ เนื่องจาก Stablecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาด้วยการตรึงมูลค่าราคากับสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงอย่างสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ Stablecoin ได้รับความนิยมจากตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ จนหลายฝ่ายหวั่นใจว่าจะกระเทือนต่อเสถียรภาพทางการเงินของสหรัฐฯ เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า Stablecoin เหล่านี้มีมูลค่าทรัพย์สินที่เพียงพอจะเปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์หรือสินทรัพย์อื่นๆ ได้
อ้างอิง:
