ชาวเมืองในภูมิภาคต่างๆ ของเยอรมนีและเบลเยียมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยใหญ่ครั้งล่าสุด ได้เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนและย่านที่อยู่อาศัยของตนเอง หลังระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ขณะเดียวกันหน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาผู้ที่ยังคงสูญหายต่อไป โดยขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 170 คน และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับในเยอรมนีนั้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 143 คนจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งรวมถึงนักดับเพลิง 4 คน โดยรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย, ไรน์แลนด์-พาลาทิเนต และซาร์ลันด์ ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
ในเมืองบัดนอยเอินอาห์ในเขตอาห์วีเลอร์ของรัฐไรน์แลนด์-พาลาทิเนต ชาวเมืองเริ่มเดินหน้าทำความสะอาด ตักโคลนและนำเศษซากความเสียหายต่างๆ ออกจากถนน อย่างไรก็ตาม ภารกิจทำความสะอาดดังกล่าวถือว่าเป็นงานใหญ่มาก เนื่องจากบ้านเรือน ธุรกิจ ร้านค้าจำนวนมากในเมืองถูกทำลายเสียหาย ไฟฟ้าและก๊าซยังคงถูกตัดขาด และการสื่อสารถูกทำลาย
มิคาเอล แลง เจ้าของร้านไวน์ กล่าวกับ Reuters ว่า “ทุกอย่างถูกทำลายหมดจนคุณจำไม่ได้ว่าเคยมีอะไรอยู่ตรงนี้บ้าง”
ขณะเดียวกันตอนนี้ความกังวลได้ย้ายไปยังภูมิภาคทางใต้อย่างบาวาเรียตอนบน เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำท่วมชั้นใต้ดินและถนนหลายสาย
นอกจากนี้ทางการเยอรมนีตะวันตกเตือนว่า เขื่อน Steinbachtal ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแตก หลังจากที่มีการอพยพประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ คาดว่า อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี จะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัยที่หมู่บ้านชูลด์ ในวันอาทิตย์นี้
ส่วนสถานการณ์ในเบลเยียมนั้น ได้มีการส่งทหารไปยัง 4 จังหวัดที่ประสบกับอุทกภัย เพื่อช่วยกู้ภัยและอพยพประชาชน นายกรัฐมนตรี อเล็กซานเดอร์ เดอ ครู กล่าวว่า อุทกภัยครั้งนี้คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 27 คนในเบลเยียม นับเป็นมหันตภัยใหญ่ที่สุดที่ประเทศเคยประสบมา พร้อมประกาศให้วันที่ 20 กรกฎาคม เป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรีย ได้ถูกส่งไปยังเมืองลีแยฌของเบลเยียม เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ถูกอพยพหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
นอกจากเยอรมนีและเบลเยียมแล้ว น้ำท่วมยังได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่อื่นๆ ของยุโรปตะวันตกด้วย ซึ่งรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ และออสเตรีย
โดยในเนเธอร์แลนด์ ประชาชนหลายพันคนในจังหวัดลิมเบิร์กต้องอพยพหนีน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำที่สูงขึ้นจนพังทลายทำนบกั้นน้ำ
อย่างไรก็ดี ที่เมืองมาสทริชต์ทางตอนใต้ และเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ระดับน้ำได้เริ่มลดลงแล้ว ทำให้ประชาชนเริ่มทยอยกลับไปยังบ้านเรือนของตนเองได้
สำหรับในสวิตเซอร์แลนด์ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ทะเลสาบและแม่น้ำเอ่อล้น ซึ่งรวมถึงแม่น้ำที่ไหลผ่านกรุงเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่น้ำจากทะเลสาบลูเซิร์นกำลังไหลท่วมเมือง และประชาชนในบาเซิลได้รับคำสั่งให้อยู่ห่างจากแม่น้ำไรน์
บรรดาผู้นำยุโรปกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุของน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ภาวะโลกร้อนทำให้มีโอกาสที่ฝนจะตกหนักมากขึ้น โดยโลกร้อนขึ้นแล้วประมาณ 1.2 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมเริ่มต้นขึ้น
ภาพ: Roberto Pfeil / picture alliance via Getty Images
อ้างอิง:
