เกาหลีใต้นับเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องเผชิญมรสุมโควิดอย่างหนักรายแรกๆ ของโลก หลังการแพร่ระบาดที่จีนปลายปี 2019 ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ก็ไม่นิ่งนอนใจ เร่งจับมือกับภาคเอกชนพัฒนาชุดตรวจเชื้อ จนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 กรมควบคุมโรคของเกาหลีใต้อนุมัติใช้งานชุดตรวจเชื้อโควิดของบริษัท SD Biosensor อย่างเป็นทางการ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในเดือนนี้ โชยองซิก ประธานบริษัทSD Biosensor วัย 60 ปี ผู้พัฒนาชุดตรวจโควิดออกมาจำหน่ายเป็นเจ้าแรกๆ ของโลก กำลังขึ้นแท่น ‘มหาเศรษฐี’ คนต่อไปของแดนกิมจิ เมื่อบริษัทเตรียม IPO ในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ภายในเดือนนี้ หลังทำยอดขายทะลุ 1.7ล้านล้านวอน หรือราว 4.5 หมื่นล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา
SD Biosensor เตรียมเสนอขายหุ้นจำนวนไม่เกิน 12.4 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคา IPO ไว้ที่ช่วงราคา 45,000-52,000 วอนต่อหุ้น หรือราว 1,300-1,400 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 8-9 กรกฎาคมนี้
มีการประเมินว่า หาก SD Biosensor ขายหุ้น IPO ในราคาช่วงกลางที่ได้กำหนดไว้ จะทำให้สามารถระดมทุนไปได้ 6.03 แสนล้านวอน หรือราว 1.7 หมื่นล้านบาท จะทำให้บริษัทมีมูลค่ากว่า 4.9 ล้านล้านวอน หรือราว 1.3 แสนล้านบาท
โดย SD Biosensor มีการตั้งเป้าว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นจะถูกนำไปใช้ในการขยายธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงใช้เป็นเงินทุนขยายกิจการทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้
สำหรับโชนั้นจะเป็นผู้ถือครองหุ้นรายใหญ่ของแบรนด์เวชภัณฑ์ BioNote และบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่าง SDB ที่สังกัดเครือ SD Biosensor อีกด้วย โดยโชจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัท คิดเป็นสัดส่วน 52% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่ง Forbes ประเมินว่า โชจะมีสินทรัพย์ (Net Worth) มูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.1 หมื่นล้านบาทด้วยกัน
ปัจจุบันบริษัท SD Biosensor เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับชุดตรวจวินิจฉัยชีวภาพระดับโลก โด่งดังมากจากการพัฒนาชุดตรวจโควิดมีชื่อว่า ‘Standard Q’ ที่ผ่านการยอมรับในหลายประเทศ
โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์อนุมัติชุดตรวจโควิดด้วยตัวเอง (Self-test Kits) 4 ยี่ห้อ ให้วางขายในร้านขายยาได้ โดย 2 ใน 4 แบรนด์นั้นผลิตโดย SD Biosensor ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดตรวจโควิดของบริษัทก็ได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศอินเดีย
ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาของ SD Biosensor ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสามารถทำรายได้ 1.7 ล้านล้านวอน หรือ 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 23 เท่า และผลพวงของการระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.22 แสนล้านวอน หรือราว 1.7 หมื่นล้านบาท ทะยานเพิ่มไปถึง 200 เท่า
โดยกว่า 84% ของรายได้ทั้งหมดมาจากยอดขายชุดตรวจ Standard Q ซึ่งสาเหตุของรายได้ที่โตขนาดนี้ส่วนนึงมาจากยอดการอุดหนุนของรัฐบาลสโลวะเกียที่สั่งซื้อชุดตรวจไปถึง 13 ล้านชุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ SD Biosensor ประสบความสำเร็จจากการขายเครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
ผลพวงของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในหลายประเทศ SD Biosensor คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้ยอดความต้องการซื้อชุดตรวจโควิดยังคงสูงอยู่ในปีนี้ ประกอบกับเมื่อเดือนที่แล้วประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างกัมพูชาก็เพิ่งสั่งซื้อชุดตรวจของบริษัทไป 1 ล้านชุดด้วย
ก่อนหน้าที่ SD Biosensor จะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ย้อนไปเมื่อปี 1999 โชเริ่มก่อตั้งบริษัท Standard Diagnostics (SD) 11 ปีต่อมาเขาได้ขายหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทให้กับบริษัทพัฒนาเครื่องมือแพทย์ Inverness Medical Innovations และได้แยกออกมาเป็นธุรกิจผลิตเครื่องตัววัดชีวภาพ (Biosensor) ที่ใช้วัสดุทางชีววิทยาจำพวกแอนติบอดีมาใช้ในการวินิจฉัยโรค จนเกิดมาเป็น SD Biosensor ในปัจจุบัน
ก่อนที่โชจะเริ่มสร้างบริษัท SD เขาเป็นบัณฑิตคณะสัตวแพทยศาสตร์จากมหาลัยเลื่องชื่อของเกาหลี Seoul National University และเคยทำงานให้กับ Green Cross บริษัทผลิตยาชั้นนำของเกาหลีใต้
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
