เว็บไซต์ข่าวสารแวดวงสกุลเงินดิจิทัล Crypto Potato เปิดเผยว่า จากตารางงานในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า พบว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้มีนัดประชุมหารือกับ ไบรอัน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Coinbase และ คริส จิอันคาร์โล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Digital Dollar Project สองแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม โดยมี พอล ไรอัน อดีตโฆษกประจำทำเนียบขาวได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
โดยพาวเวลล์พบปะพูดคุยกับซีอีโอของ Coinbase นานราวครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น จึงต่อสายวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับซีอีโอของ Digital Dollar Project ในวันเดียวกัน
รายงานระบุว่า ในกรณีของ Coinbase ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับประเด็นในการหารือ หรือฝ่ายใดเป็นผู้นำในการอภิปราย และจนถึงขณะนี้ ทั้ง Fed และ Coinbase ต่างปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึงการพบปะดังกล่าว ขณะที่ในกรณีของ Digital Dollar Project มีความเป็นไปได้ว่าประเด็นหารือหลักคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ US CBDC
ทั้งนี้แม้กฎระเบียบด้านคริปโตเคอร์เรนซีของสหรัฐฯ จะยังคงคลุมเครือ ไม่ชัดเจน แต่บรรยากาศการซื้อขายลงทุนในคริปโตโดยรวมในสหรัฐฯ ก็ค่อนข้างเปิดกว้างเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เห็นได้จากในช่วงอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีการอำนวยความสะดวกและออกใบอนุญาตให้บรรดาบริษัทด้านคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนเยอะพอสมควร
ขณะเดียวกันความนิยมและยอมรับในคริปโตเคอร์เรนซีก็ทำให้มุมมองต่อทางการที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัลเริ่มเป็นไปในทิศทางบวก ส่งผลให้ Coinbase สามารถขยายกิจการได้ค่อนข้างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนประเภทของเหรียญคริปโตที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนบนคริปโต และการจดทะเบียนเข้าตลาดโดยตรง
ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่า การประชุมระหว่าง Fed กับ Coinbase และ Digital Dollar Project อาจเป็นการที่ Fed กำลังเตรียมปูทางเดินหน้าเข้าสู่การพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลกลาง หรือ CBDC ที่ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางจีน กำลังดำเนินการทดสอบอยู่ในเวลานี้
โดยก่อนหน้านี้แม้ว่าท่าทีของของประธาน Fed จะไม่ได้ชื่นชอบคริปโตเคอร์เรนซี เพราะเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงและนำมาใช้เพื่อการเก็งกำไร กระนั้นพาวเวลล์ก็ยอมรับว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมของดิจิทัลดอลลาร์ หรือ US CBDC อาจจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต รวมถึงเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ จำต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียอำนาจด้านภูมิรัฐศาสตร์กับรัฐบาลจีน
วันเดียวกัน เว็บไซต์ Cointelegraph รายงานว่า ปริมาณซัพพลายของบิทคอยน์ในตลาดในห้วงเวลานี้ลดลงทำสถิติแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เหตุนักลงทุนเริ่มชะลอการเทขายและหันกลับมาถือครองบิทคอยน์กันมากขึ้น
รายงานข้างต้นอ้างอิงข้อมูลจากทาง Santiment บริษัทประมวลวิเคราะห์ข้อมูลในตลาด ซึ่งพบว่าระดับของ BTC บิทคอยน์ในแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนในขณะนี้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่มีการเทขายครั้งใหญ่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นสัญญาณบ่งชี้ได้ว่าการเทขายบิทคอยน์ได้ผ่านไปแล้ว และนักลงทุนเริ่มหันกลับมาถือครองบิทคอยน์อีกครั้ง
โดย Santiment แสดงความเห็นว่า จำนวนซัพพลายบิทคอยน์ที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือนถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะโดยทั่วไปแล้วหมายถึงความเสี่ยงของการเทขาย BTC กำลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้แม้ว่ากระแสของบิทคอยน์จะยังไม่ฟื้นกลับขึ้นมาดีนัก แต่นักลงทุนส่วนหนึ่งก็เริ่มมีเหตุผลให้เชื่อมั่นในบิทคอยน์มากขึ้น หลังประเทศในแถบลาตินอเมริกาเปิดรับบิทคอยน์ และบริษัทขุดคริปโตย้ายฐานการขุดออกจากจีนไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทำให้อุตสาหกรรมคริปโตมีแนวโน้มเติบโตขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าตลาดบิทคอยน์โดยรวมในระยะสั้นยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมมีการเรียกร้องให้ตลาดปรับฐานภายในปีนี้
อ้างอิง: