ห้องเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองบงดี (Bondi) ชานกรุงปารีส เด็กหนุ่มคนหนึ่งไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่นเขาจะมีฮีโร่ในชุดขาวอยู่ด้วยกันเสมอ
ฮีโร่ในชุดขาวคนนั้นคือ คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของทีม ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด นักฟุตบอลผู้เป็นตัวแทนของมนุษย์ที่ท้าทายนักฟุตบอลที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์สูงสุดในรอบหลายสิบปีอย่าง ลิโอเนล เมสซี ของบาร์เซโลนา
ส่วนเด็กช่างฝันคนนั้นมีชื่อว่า คีเลียน เอ็มบัปเป้
ภาพชุดของเอ็มบัปเป้ในห้องนอนที่เต็มไปด้วยภาพโปสเตอร์ของโรนัลโดถูกบันทึกไว้โดย L’Équipe หนังสือพิมพ์กีฬาอันดับหนึ่งของฝรั่งเศสเมื่อ 8 ปีที่แล้วในช่วงที่เอ็มบัปเป้กำลังเป็นเด็กหนุ่มพรสวรรค์สูงที่ถูกจับตามองในวงการฟุตบอลระดับเยาวชนของฝรั่งเศส และเพิ่งจะถูกโมนาโกดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2013
โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าในอีกไม่กี่ปีต่อมาเด็กหนุ่มคนนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของโลกที่ทุกดัชนีชี้วัดบ่งบอกชัดว่าเขามีโอกาสจะก้าวขึ้นมาแทนที่ฮีโร่ของเขา ‘CR7’ ในฐานะนักฟุตบอลที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลก และมีโอกาสที่จะก้าวแซงหน้าไปได้ด้วยซ้ำ
และคืนนี้ทั้งสองจะพบกันในเกมสำคัญที่มีความหมายต่อโอกาสในการเข้ารอบน็อกเอาต์ของศึกฟุตบอลยูโร 2020 ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสและโปรตุเกส
ภาพ: L’Équipe
จากแรงบันดาลใจส่วนตัวสู่การเป็นคู่แข่งในสนาม
การพบกันในค่ำคืนนี้ไม่ใช่การพบกันครั้งแรกระหว่างโรนัลโดและเอ็มบัปเป้
ความจริงแล้ว ‘ยอดมนุษย์ลูกหนัง’ ทั้งสองเคยพบกันมาเมื่อหลายปีก่อนในวันที่ดาวเตะชาวฝรั่งเศสยังเป็นแค่ดาวรุ่งคนหนึ่ง และมีสถานะเป็นแฟนบอลตัวยงของซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกส
วันนั้นโรนัลโดสานฝันให้กับเอ็มบัปเป้ด้วยการถ่ายภาพคู่กันโดยเจ้าหนูไม่ได้สวมชุดโมนาโกสโมสรต้นสังกัด แต่ใส่เสื้อแจ็กเก็ตของเรอัล มาดริดด้วย
ความรักและความเทิดทูนที่เขามีต่อโรนัลโดจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับ โดย วิลฟรีด เอ็มบัปเป้ พ่อของเจ้าหนูคีเลียนเคยเผยเรื่องไม่ลับนี้ไว้กับนิตยสาร France Football เมื่อหลายปีก่อน “เขาเป็นแฟนของเรอัล มาดริด และไอดอลของเขาคือ คริสเตียโน โรนัลโด
“ในแต่ละวันเขาจะใช้เวลาหลายขั่วโมงในการดูวิดีโอการเล่นของโรนัลโดบนอินเทอร์เน็ต”
ขณะที่ตัวของเอ็มบัปเป้เองก็เคยยอมรับว่าชีวิตของเขามีโรนัลโดเป็นแสงนำทาง ไม่ใช่เมสซีเหมือนอีกหลายคน “มันสายเกินไปสำหรับผมที่จะมีเส้นทางเหมือนเมสซี” เขาให้สัมภาษณ์กับ La Gazzetta dello Sport “ไม่อย่างนั้นผมคงอยู่ที่โมนาโก ดังนั้น ว่ากันตรงๆ โดยที่ไม่ได้ต้องการจะพาดพิงถึงเมสซี ผมเองมีโรนัลโดเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต”
ทั้งนี้ แม้ว่าในสไตล์การเล่นแล้วทั้งสองมีความแตกต่างกันพอสมควร โดยโรนัลโดนั้นเดิมเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกที่มีลีลาการเล่นเหมือนนักฟุตบอลข้างถนน ขณะที่เอ็มบัปเป้จะชวนให้คิดถึงอีก ‘โรนัลโด’ อิล เฟโนเมโน ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลที่มีความเร็ว ความแข็งแกร่ง ทักษะการไปกับบอลที่เหลือเชื่อ รวมถึงสัญชาตญาณในการจบสกอร์
แต่ในเรื่องของวิธีคิดแล้วเอ็มบัปเป้มีส่วนคล้ายโรนัลโดไม่น้อย โดยแม้จะเคยให้สัมภาษณ์ยกย่องทั้งโรนัลโดและเมสซีว่าเป็นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับนักฟุตบอลที่มหัศจรรย์จากระดับมาตรฐานผลงานของทั้งสองตลอด 15 ปีที่ผ่านมา แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกคือความเชื่อมั่นว่าสักวันเขาจะก้าวแซงทั้งสองได้
“อีโก้? แน่นอนมันเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเมื่อคุณประสบช่วงเวลาที่ลำบาก ไม่มีใครจะผลักดันตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง” เอ็มบัปเป้ให้สัมภาษณ์กับ RMC Sport “เราต้องทำให้ตัวเราเชื่อว่าเราจะสามารถแบกภูเขานี้ได้
“คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจเรื่องอีโก้ แต่เมื่อคุณอยู่ในช่วงที่ไม่ดี ไม่มีใครหรอกจะมาหาเราที่บ้านเพื่อแนะนำเราว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันอยู่ที่ตัวเราเอง อยู่กับความคิดของเราเอง เราต้องพยายามบอกตัวเองว่าเราสามารถจะทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้
“ทุกครั้งที่ผมลงสนามผมจะบอกตัวเองเสมอว่าผมเก่งที่สุด และแม้ว่าผมจะยังทำได้ไม่ถึงในระดับเดียวกับเมสซีหรือโรนัลโดซึ่งเป็นคนที่เก่งกว่าผม พวกเขามีสิ่งที่เหนือกว่าผมมากมายหลายอย่าง แต่ในหัวของผม ผมจะบอกตัวเองเสมอว่าผมเป็นคนที่เก่งที่สุด เพราะมันคือวิธีเดียวที่เราจะไม่ยอมแพ้ต่อขีดจำกัดของตัวเอง และจะพยายามทำอย่างดีที่สุด”
วิธีคิดดังกล่าวช่างคล้ายกับโรนัลโดมาก และเมื่อพิจารณาแล้วทั้งสองมีเส้นทางที่คล้ายกันจริง โดยโรนัลโดเป็นดาวเด่นในทีมสปอร์ติง ลิสบอน ก่อนที่จะถูก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงตัวไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างรวดเร็วหลังจากที่โชว์ฟอร์มมหัศจรรรย์ในเกมอุ่นเครื่องในปี 2002 และจากนั้นก็ก้าวไปสู่การเป็นสุดยอดนักเตะของโลก และถูกเรอัล มาดริดซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก 80 ล้านปอนด์ในปี 2009 และ 9 ปีต่อมาย้ายไปยูเวนตุสจนถึงเวลานี้
สำหรับเอ็มบัปเป้เขาแจ้งเกิดกับโมนาโก เป็นหนึ่งในดาวเด่นที่เป็นความมหัศจรรย์ในปีที่คว้าแชมป์ลีกเอิงเมื่อฤดูกาล 2016-17 ก่อนจะถูกปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทุ่มเงินซื้อตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลในฤดูกาลต่อมาทันทีพร้อมกับเนย์มาร์ด้วยค่าตัวถึง 166 ล้านปอนด์ (ใช้วิธีการยืมตัวก่อนแต่มีการตกลงเงินค่าตัวมหาศาลเอาไว้ล่วงหน้า) ซึ่งเป็นค่าตัวที่เหลือเชื่อสำหรับเด็กอายุเท่านี้
และล่าสุดมีรายงานว่าเอ็มบัปเป้อาจจะย้ายออกจากเปแอสเชหลังจบศึกฟุตบอลยูโรหนนี้ โดยคนที่อาจจะมาแทนที่เขาคือแรงบันดาลใจอย่างโรนัลโดนั่นเอง
https://www.youtube.com/watch?v=bJ6rctOXSLM
Posterboy ของวงการ
ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาโลกฟุตบอลอยู่ใต้เท้าของโรนัลโดและเมสซี
เพียงแต่มาถึง ณ เข็มนาฬิกาเดินไปนี้เราต่างรู้กันดีว่าเวลาของทั้งสองที่จะโลดแล่นในเกมลูกหนังนั้นเหลือน้อยลงไปทุกที และแม้ว่าจะยังเหลืออยู่แต่ดูเหมือนว่า ‘สถานะ’ ของทั้งคู่กำลังถูกสั่นคลอนอย่างจริงจัง
เอ็มบัปเป้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกคาดหมายมาหลายปีว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งคนใหม่ และบังเอิญเหลือเกินที่โลกส่ง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ซูเปอร์กองหน้าของทีมชาตินอร์เวย์มาเกิดพอดี ซึ่งทำให้เวลานี้เริ่มมีการสังเกตว่าบางทีคนที่จะได้เป็น Posterboy ของวงการฟุตบอลในเร็วๆ นี้อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้า
จากโรนัลโดและเมสซี มาเป็นเอ็มบัปเป้และฮาลันด์
สำหรับเอ็มบัปเป้เองแม้ว่ายอดของผู้สนับสนุนจะไม่มากเท่ากับฮีโร่ในดวงใจของเขาในเวลานี้ แต่สถานะการยอมรับของเขารวมถึงมูลค่าทางการตลาดก็มีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือโรนัลโดและเอ็มบัปเป้นั้นมี Nike เป็นผู้สนับสนุนหลักเหมือนกัน และใส่รองเท้าในตระกูลสายสปีดเหมือนกัน โดยปัจจุบันโรนัลโดใช้รองเท้ารุ่น Nike Mercurial Spark Positivity CR7 ซึ่งเป็นซีรีส์ของตัวเอง และมีคอลเล็กชันของตัวเองโดยเฉพาะด้วย
ขณะที่เอ็มบัปเป้ยังไม่มีคอลเล็กชัน และใส่รองเท้า Nike Mercurial Superfly VIII Elite ธรรมดา แต่เชื่อว่าในเวลาอันใกล้นี้จะมีการยกระดับความสำคัญของเอ็มบัปเป้ขึ้นมาทาบโรนัลโดที่ครองความเป็นหนึ่งมาโดยตลอดอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกวงการที่ ‘เก่าไปใหม่มา’
และแน่นอนว่าจะมีแบรนด์อีกมากมายที่พร้อมจะเข้าหาเอ็มบัปเป้ในอนาคต เพราะไม่ว่าใครก็อยากได้ Posterboy ที่ดีที่สุดในเวลานั้นอยู่แล้ว และบางทีอาจจะใกล้ตัวกว่าที่เราคาดก็เป็นได้
*ข้อมูลบนภาพคือสถิติก่อนการแข่งขันยูโร 2020 โดยปัจจุบันคริสเตียโน โรนัลโดลงแข่งให้ทีมชาติไป 176 นัด ทำไป 106 ประตู
นักเตะที่มี ‘ค่า’ มากที่สุด
ตามข้อมูลจาก Forbes ในหัวข้อเรื่อง The World’s Highest-Paid Soccer Players 2020 ซึ่งเป็นการสรุปว่านักฟุตบอลคนไหนในโลกที่มีรายได้มากที่สุดในโลกในปี 2020 นั้นมีความน่าสนใจอย่างมาก
โดยโรนัลโดเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 รองจาก ลิโอเนล เมสซี คนเดียว มีรายได้ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นเงินค่าเหนื่อยจากการเล่นฟุตบอล 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์และสินค้าต่างๆ (Endorsement) โดยส่วนที่เป็นรองคู่ปรับชาวอาร์เจนไตน์คือเรื่องค่าตอบแทนที่เมสซีได้รับเงินมหาศาลจากบาร์เซโลนาถึงปีละ 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์แค่ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่น่าตกใจคือในลิสต์ดังกล่าวเอ็มบัปเป้ในวัย 22 ปี (21 ปีในขณะที่ตีพิมพ์รายงาน) อยู่ในอันดับที่ 4 มีรายได้สูงถึงปีละ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรองเนย์มาร์ในอันดับ 3 โดยได้ค่าตอบแทนจากสโมสรปีละ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับค่าพรีเซนเตอร์อีก 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากเกิดการต่อสัญญาฉบับใหม่กับเปแอสเช หรือการย้ายทีมไปอยู่กับสโมสรใหม่เชื่อว่าเอ็มบัปเป้จะได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าเดิมอย่างน้อย 2 เท่าด้วยกัน นั่นหมายถึงเขาจะเป็นนักฟุตบอลที่อาจจะได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดในโลก เพราะเมสซีและโรนัลโดจะไม่มีทางรับค่าตอบแทนมากในระดับเดิมอีกในฤดูกาลหน้า
แต่สิ่งที่เอ็มบัปเป้อาจจะไม่มีทางไล่ตามโรนัลโดได้ทันเลยคือจำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งนับรวมทั้งหมดแล้ว CR7 มีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 500 ล้านคนแล้ว เฉพาะใน Instagram มากถึง 330 ล้านคน ขณะที่เอ็มบัปเป้มีจำนวนผู้ติดตามใน Instagram แค่ 50 ล้านคน
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบุคลิกของดาวยิงฝรั่งเศสที่เป็นคนนิ่งเงียบยังไม่มีบุคลิกความเป็นผู้นำ ความเป็นนักสู้ที่โดดเด่นเหมือนโรนัลโดซึ่งเป็นสิ่งที่ชนะใจแฟนบอลทั่วโลก (เอ็มบัปเป้ก็ด้วยคนหนึ่ง) และยังสั่งสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน
ถึงเอ็มบัปเป้จะเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้แล้ว และนับเฉพาะผลงานในช่วงวัยรุ่นเขายอดเยี่ยมกว่าทั้งโรนัลโดและเมสซี แต่รางวัลเกียรติยศส่วนตัวในระดับสูงสุดอย่างรางวัลลูกฟุตบอลทองคำ (Ballon d’Or) เขายังไม่เคยได้มาครองแม้แต่สมัยเดียว (โรนัลโดได้มาครองถึง 5 สมัย เมสซี 6 สมัย)
การคิดที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่ได้จริงๆ ในเรื่องของผลงานเป็นเรื่องที่ยากราวกับจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่เพราะเป็นเอ็มบัปเป้มันก็อาจจะเป็นไปได้ขึ้นมาก็ได้
*ข้อมูลบนภาพคือสถิติก่อนการแข่งขันยูโร 2020 โดยปัจจุบันเอ็มบัปเป้ลงแข่งให้ทีมชาติไป 46 นัด ทำไป 17 ประตู
การพบกัน ณ จุดตัดของโชคชะตา
คืนนี้เอ็มบัปเป้และโรนัลโดจะพบกันในเกมนัดสุดท้ายของ ‘กลุ่มแห่งความตาย’ ในศึกฟุตบอลยูโร 2020
ในเกมก่อนหน้านี้ทั้งสองผิดหวังมาด้วยกันทั้งคู่ โดยฝรั่งเศสของเอ็มบัปเป้เสียท่าทำได้แค่เสมอทีมรองบ่อนอย่างฮังการี ขณะที่โปรตุเกสของโรนัลโดหนักกว่าโดนเยอรมนีคืนชีพไล่ต้อนไปแบบสู้ไม่ไหว 4-2
ผลการแข่งขันในคืนนี้ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะ แพ้ หรือเสมอ จะส่งผลต่อโอกาสและเส้นทางในการเข้าสู่รอบต่อไปแน่นอน
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือการดวลกันระหว่าง ‘พระเอก’ อย่างพวกเขาทั้งสอง
แม้จะเคยรักกันมาก่อน แม้จะนับถือกัน แต่ถึงคราวต้องห้ำหั่นกันในสนามแล้ว น่าสนใจเหลือเกินว่าใครจะเป็นผู้มีชัยในวันนี้
ระหว่างเสาหลักผู้ยืนหยัดมายาวนาน กับคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงเหลือเกิน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.dailymail.co.uk/sport/football/article-5906199/Kylian-Mbappes-rise-Cristiano-Ronaldo-fanboy-knocking-Lionel-Messi-World-Cup.html
- www.goal.com/en-my/news/ronaldo-opinion-mbappe-haaland-battle-to-be-the-best/1qn8vwcc2g8nh16gazt8aigobz
- therealchamps.com/2021/06/03/real-madrid-transfers-kylian-mbappe-could-impact-cristiano-ronaldo-future/
- www.goal.com/en/news/i-tell-myself-im-better-than-messi-ronaldo-mbappe-opens-up/nirc3s56a6b213rpcwe3m6xyv
- www.forbes.com/sites/christinasettimi/2020/09/14/the-worlds-highest-paid-soccer-players-2020-messi-wins-mbappe-rises/?sh=caaf4381cff0
- www.forbes.com/sites/kurtbadenhausen/2016/12/02/cristiano-ronaldos-1-billion-nike-deal-is-a-bargain-for-sportswear-giant/?sh=7c3e28745a91
- news.nike.com/cristiano-ronaldo
- www.lequipe.fr/Football/Article/Kylian-mbappe-dans-la-lignee-de-cristiano-ronaldo/1182258