ฟุตบอลยูโร 2020 ในรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 กำลังจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยในค่ำคืนนี้จะเป็น 3 คู่สุดท้ายของเกมนัดที่ 2 ซึ่งเมื่อเตะครบทั้ง 3 คู่แล้ว ก็คงพอจะเห็นทิศทางทั้งหมด รวมไปถึงอาจจะพอเห็นการไขว้สายการแข่งขั้นในรอบน็อกเอาต์ได้คร่าวๆ ด้วย และการแข่งขันในคืนนี้ก็ล้วนมีแต่เกมน่าสนใจไล่ตั้งแต่สองทุ่มยันตีสอง ไล่ตั้งแต่คู่แรกเวลา 20.00 น. ฝรั่งเศสพบฮังการี ตามมาด้วยโปรตุเกสพบเยอรมนี เวลา 23.00 น. และปิดท้ายเวลา 02.00 น. ด้วยเกมระหว่างสเปนพบโปแลนด์
มัทธิอัส กินเทอร์ ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ แม้จะมีรายงานอาการบาดเจ็บ
โปรตุเกส vs. เยอรมนี – 3 แต้มเพื่อเข้ารอบ กับ 3 แต้มเพื่อไม่ตกรอบ
เกมบิ๊กแมตช์ประจำค่ำคืนนี้จะเล่นกันในเวลา 23.00 น. ที่สนามฟุตบอลอารีนา มิวนิก หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ อลิอันซ์ อารีนา ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี โดยโปรตุเกสเป็นเจ้าบ้านทิพย์ในเกมนี้ที่คว้า 3 คะแนนมาได้ในเกมแรก จะพบกับเยอรมนีที่ยังไม่มีคะแนน แต่ได้เป็นทีมเยือนทิพย์ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง โดยจุดประสงค์ในการได้ 3 คะแนนในเกมนี้ของทั้งสองทีมต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่ที่ไม่ต่างกันคือ ไม่มีใครอยากแพ้ในเกมนี้อย่างแน่นอน
โปรตุเกสประเดิมเกมแรกมาด้วยชัยชนะ 3-0 เหนือฮังการี ถึงแม้สกอร์ดูเหมือนว่าจะง่าย แต่ในความเป็นจริงกว่าที่ทีม ‘ฝอยทอง’ จะบดคู่แข่งจนได้ประตูแรกก็ต้องรอไปถึงนาทีที่ 84 อย่างไรก็ตาม การที่สุดท้ายแล้วเกมจบลงด้วยชัยชนะของโปรตุเกส ทำให้พวกเขาขึ้นไปเป็นทีมนำกลุ่ม F และอีกเพียงแค่ 3 คะแนนก็จะลอยลำเข้ารอบทันที แต่ 3 คะแนนที่ว่า พวกเขาต้องล้วงออกมาจากมิวนิกด้วยตัวเอง
โปรตุเกสแม้มาเล่นที่เยอรมนี แต่ก็มีสภาพทีมที่ดีกว่า เพราะหลังจากที่เรียกตัว ดีโอโก ดาโลต์ มาแทน ชูเอา คันเซโล ที่ติดโควิด-19 แล้ว สภาพทีมก็ไม่มีใครที่ไม่พร้อมลงสนามอีก โดย แฟร์นานโด ซานโตส น่าจะจัดทีมชุดเดียวกับที่พบฮังการีลงในเกมนี้ เพื่อที่จะคว้า 3 คะแนนและการันตีการเข้ารอบต่อไปให้ได้ในเกมนี้เลย ดีกว่าที่จะต้องไปเดิมพันอนาคตในเกมเจอกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม
ด้านทีมเยือนทิพย์อย่างเยอรมนี อาจจะดูมีสถิติดีกว่าเมื่อเจอกับโปรตุเกสใน 5 นัดหลังด้วยการชนะ 4 แพ้ 1 แถมเกมนัดนี้ยังได้เล่นในบ้านอีกต่างหาก แต่จากฟอร์มในนัดก่อนที่พ่ายต่อฝรั่งเศสแบบบุกเท่าไรก็ยิงไม่ได้ ก็ทำให้หลายฝ่ายเสียความเชื่อมั่นในทีมของพวกเขาไปพอสมควร และที่สำคัญพวกเขาอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างกดดัน เพราะอย่างน้อยต้องมีแต้มในการลงสนามเกมนี้
สถานการณ์จากยูโร 2016 ทำให้พอเห็นภาพว่าทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมที่ได้เข้ารอบจะมีคะแนนเฉลี่ย 3.5 แต้ม (มี 4 คะแนน 2 ทีม และ 3 คะแนน 2 ทีม) จึงพอจะพูดได้ว่าการมี 3 แต้มนั้นไม่ปลอดภัย และถ้าอยากสบายใจก็ต้องมีอย่างต่ำ 4 คะแนน ซึ่งมันต้องมาจากการเสมอ 1 ชนะ 1 ดังนั้น ถ้าแพ้เกมนี้ โอกาสที่เยอรมนีจะเก็บได้ 4 คะแนน จึงไม่มีทางเป็นไปได้เลย
นอกจากปัญหาเรื่องความกดดันที่ทีมของ โยอาคิม เลิฟ ต้องรับมือแล้ว ตัวโค้ชเองก็ต้องปวดหัวเรื่องปัญหาตัวผู้เล่น โดย ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ มีอาการเจ็บต้นขาต้องพักยาว 2 สัปดาห์ แต่เลิฟก็ตัดสินใจให้เขาอยู่กับทีมต่อไป ส่วน มัทธิอัส กินเทอร์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมนี้แล้วกลับมาซ้อมได้อีกครั้ง แต่ไม่แน่ว่าจะได้ลงสนามหรือไม่ และข่าวดีที่ทีมได้รับอย่างการที่ ลีออน กอเร็ตซ์กา หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกในทีม ก็ต้องดูว่า ‘บุนเดสเทรนเนอร์’ จะกล้าใช้นักเตะที่เพิ่งกลับมาซ้อมได้ไม่นานขนาดไหนในเกมที่มีเดิมพันสูงแบบนี้
สเปนยืนยันว่า เซร์คิโอ บุสเกตส์ หายจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว
สเปน vs. โปแลนด์ – การเผชิญหน้ากันของทีมที่เคยถูกมองว่าจะเข้ารอบไปด้วยกัน
หลังจากการจับฉลากแบ่งกลุ่มจบลง ใครๆ ก็ต่างจับตามองว่าสเปนกับโปแลนด์คือ 2 ทีมที่จะยึด 2 อันดับแรกเข้ารอบน็อกเอาต์ประจำกลุ่ม E แต่มาตอนนี้กลายเป็นว่าทั้งสองทีมต้องมาลงสนามนัดที่ 2 ด้วยการที่ทีมหนึ่งมีแค่ 1 คะแนน กับอีกทีมยังไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว ซึ่งสถานการณ์เป็นสถานการณ์ที่ทั้งคู่ต่างต้องการ 3 คะแนนอย่างไม่ต้องสงสัย และถ้าหากจบลงด้วยการแบ่งแต้มทีมละ 1 คะแนนในเกมนี้ ก็จะยิ่งทำให้ทั้งคู่ต้องรับมือกับแรงกดดันในเกมสุดท้ายอย่างสาหัส
นอกจากได้เล่นในบ้านที่เซบียา สเปนยังมีข่าวดีเพิ่มเติมเมื่อ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ปลอดเชื้อโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย ทำให้เขาจะมีสิทธิ์กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่า หลุยส์ เอ็นริเก จะตัดสินใจอย่างไร เช่นเดียวกับการตัดสินใจในการเลือกกองหน้าตัวเป้าที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการส่ง อัลบาโร โมราตา ลงในเกมกับสวีเดน และเอารองดาวซัลโวลาลีกาอย่าง เคราร์ด โมเรโน ลงเล่น ซึ่งในเกมนี้ที่ทีมต้องการชัยชนะ ทำให้อาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ก็ได้
ขณะที่โปแลนด์ซึ่งพ่ายต่อสโลวะเกียมาในนัดแรกอยู่ในสถานะที่หลังชนฝาพอสมควร ไม่ต่างจากเยอรมนีที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ กล่าวคือถ้าไม่มีแต้มในนัดนี้ ก็คงต้องลุ้นเหนื่อยที่จะเข้ารอบน็อกเอาต์ โดยปัญหาของทีมอยู่ที่การลำเลียงบอลไปให้สุดยอดกองหน้าอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ไม่ได้ในเกมก่อน ทำให้เขาไม่อาจแผลงฤทธิ์ได้ ดังนั้น เปาโล ซูซา อาจจะต้องคิดเรื่องนี้มากหน่อย
นอกจากนั้นแล้ว เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค ที่โดน 2 ใบเหลือง กลายเป็นใบแดงในเกมที่แล้ว ก็จะถูกแบนในเกมนี้อีกหนึ่งนัด ทำให้แดนกลางที่ปกติก็เชื่อมเกมลำบากอยู่แล้วต้องเจองานยากยิ่งขึ้นไป ในเกมเดิมพันที่ถ้าแพ้ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เก็บของกลับบ้าน ถ้าซูชาวางแท็กติดมาไม่ดีแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะต้องหยุดในรอบนี้ของโปแลนด์ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน
ฝรั่งเศสที่รับมือกับเสียงเชียร์จากแฟนในเยอรมนีได้ดี ต้องมาเจอบททดสอบจากแฟนในบูดาเปสต์ต่อทันที
อังการี vs. ฝรั่งเศส – ‘เลส์ เบลอส์’ ต้องเจอกับกองเชียร์กว่า 60,000 คน
อาจจะดูโหดร้ายไปสักนิด แต่ก็คงต้องบอกตามตรงว่าฮังการีเป็นรองฝรั่งเศสในเกือบทุกประตูก่อนทั้งคู่จะเจอกัน ความได้เปรียบเดียวของพวกเขาก่อนเกมที่สนามปุสกัส อารีนา ค่ำคืนนี้ คือเสียงของกองเชียร์กว่า 60,000 คน ที่จะช่วยหนุนหลังพลพรรค ‘แม็คยาร์’ และหวังว่าเสียงเชียร์จะคอยปลุกเร้าพวกเขา และรบกวนคู่แข่งอย่างทีม ‘ตราไก่’ ให้ไขว้เขวและเป๋ไปในที่สุด
ฮังการีเป็นรองฝรั่งเศส อย่างที่เรียนไว้ตั้งแต่ต้น โดย 3 นัดหลังสุดที่เจอกัน พวกเขาพ่ายมาเรียบ แถมสภาพตัวผู้เล่นก็เป็นรองกว่า จากการที่นักเตะตัวหลักอย่าง โดมินิค โซบอสซไล ไปเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม ขณะที่ โรแลนด์ ซัลไล ก็ยังไม่ฟิตสมบูรณ์หลังจากได้รับบาดเจ็บในเกมกับโปรตุเกสจนต้องถูกถอดออกในนาทีที่ 77 อย่างไรก็ตาม ฮังการีต้องพยายามทำผลงานในเกมนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป้าหมายในการเข้ารอบ การมี 1 แต้ม หรือ 3 แต้มในเกมนี้ จะช่วยให้พวกเขามีโอกาสไปต่อได้
ขณะที่ฝรั่งเศส ถ้าหากได้ 3 คะแนนในเกมนี้ ก็จะการันตีการเข้ารอบน็อกเอาต์ทันที พร้อมกับทางเลือกในเกมพบกับโปรตุเกสว่าต้องการจะพักตัว หรือเข้ารอบในฐานะทีมอันดับที่เท่าไร แต่นั่นจะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ถ้าพวกเขาเอาชนะฮังการีในเกมนี้ได้เท่านั้น
โดยฝรั่งเศสมีห่วงแค่ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ที่โดนเข่าลอยจนได้รับบาดเจ็บในเกมที่แล้วแค่คนเดียวเท่านั้น โดยทางยูฟ่าก็เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักเตะ หลังจากเขาออกมาเปิดเผยว่าหมดสติไปราว 10-15 วินาที ทำให้ไม่แน่ว่าดาวเตะจากบาเยิร์น มิวนิก จะได้ลงสนามในเกมนี้หรือไม่ แต่นอกจากปาวาร์แล้ว ในตำแหน่งอื่นๆ ของทีมนั้น พร้อมลงสนามเพื่อเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ทุกคน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: