แม้แบรนด์ Chanel จะยังคงเป็นบริษัทจำกัดที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวเลขรายได้สู่สาธารณะเหมือนคู่แข่งสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่อยู่ภายใต้บริษัทมหาชนเกือบทั้งหมด แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีขวัญใจคนทั่วโลก ก็ตัดสินใจเผยรายได้บริษัทช่วงเดือนมิถุนายนทุกปี เพื่อเป็นการสะท้อนความสำเร็จ ความแข็งแกร่ง และจุดยืนของ Chanel ในวงการแฟชั่น
โดยล่าสุดทาง Philippe Blondiaux ซีเอฟโอ ได้เปิดเผยรายได้ของปี 2020 กับทางเว็บไซต์ WWD โดยทาง Chanel มีรายได้อยู่ที่ 10.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลงมา 18% หากเปรียบเทียบกับปี 2019 และหากดูในเชิงกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) ทางแบรนด์ก็ลดลง 41.4% มาอยู่ที่ 2.05 พันล้าน สำหรับปี 2020 ซึ่งเหตุผลหลักของรายได้และกำไรที่ลดลงก็เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อทุกบริษัทในวงการแฟชั่น เช่น LVMH เจ้าของ Louis Vuitton และ Dior รายได้ก็ลดลง 16%, Kering ที่เป็นเจ้าของ Gucci กับ Balenciaga ลดลง 16.4% ส่วน Hermes ลดลงน้อยสุดอยู่ที่ 6%
แต่ในขณะเดียวกันทาง Blondiaux ได้บอกว่า เหตุผลที่รายได้ของ Chanel ลดลงมากกว่าคู่แข่งหลายเจ้าก็เพราะแบรนด์ได้กัดฟันตัดสินใจไม่ขอเงินช่วยเหลือจากทางภาครัฐ ไม่มีการเลิกจ้างพนักงาน และยังได้ซื้อต่อกิจการของผู้ผลิต (Supplier) สำคัญของแบรนด์ที่โดนผลกระทบอย่างหนักจนเกือบต้องปิดบริษัท
แต่มาในปี 2021 เมื่อภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย ทาง Chanel ก็ได้เห็นยอดขายในเพียงครึ่งปีแรกกลับกระโดดขึ้นมาเลขสองหลัก ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าครึ่งปีแรกของปี 2019 ก่อนจะเกิดโรคระบาดอีกด้วยซ้ำ โดยตอนแรกทาง Blondiaux ได้คาดการณ์ว่ายอดขาย Chanel จะต้องใช้เวลา 2 ปี จนถึงปี 2022 กว่าจะกลับมาเหมือนเดิมก่อนโควิด-19 ได้
ส่วนในด้านการลงทุน ทาง Chanel ได้ใช้เงินไปกว่า 1.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 ซึ่งนับว่าสูงสุดในประวัติการณ์ของแบรนด์แม้จะเจอพิษโควิด-19 โดยได้นำเงินไปลงทุนด้านการพัฒนาเรื่องร้านค้า เครือข่ายออฟฟิศทั่วโลก โลจิสติกส์ และออนไลน์ โดย Blondiaux ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า Chanel จะไม่ขายกิจการให้ใครทั้งสิ้น รวมถึงยังไม่มีแพลนจะซื้อแบรนด์อื่นๆ ณ เวลานี้
ภาพ: Christian Vierig / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: