บรรยากาศตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ปิดตลาดปรับตัวผสมผสาน แม้จะได้ปัจจัยบวกจากราคาพลังงานและตลาดการเงิน แต่ก็เจอแรงเทขายในหุ้นประกันสุขภาพและเทคโนโลยี โดยนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม และจับตาดูภาวะเงินเฟ้อ
โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 45.86 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 34,575.31 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.07 จุด หรือ 0.05 % ปิดที่ 4,202.04 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลดลง 12.26 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 13,736.48 จุด
ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นได้รับแรงหนุนบางส่วนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้หุ้นพลังงานปิดตลาดในแดนบวก แต่เพราะแรงฉุดจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และหุ้นในกลุ่มประกันสุขภาพทำให้ตลาดหุ้นปิดผสม
สำหรับราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 67.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้านน้ำมันดิบเบรนต์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 70.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
นอกจากข่าวดีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัวแล้ว ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจจีน ประเทศบริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก หลังมีรายงานกิจกรรมภาคโรงงานของประเทศจีนประจำเดือนพฤษภาคมขยับปรับขึ้นสูงสุดในรอบปี
ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้บรรลุข้อตกลงในการประชุมเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ทางกลุ่มจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้จะขยับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม
รายงานระบุว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนกรกฎาคม ตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันไว้เดิมเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่โอเปกจะกลับไปผลิตน้ำมันเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวันระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
อย่างไรก็ตามโอเปกและพันธมิตรยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำลังการผลิตของกลุ่มในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งกลุ่มโอเปกพลัสจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ขณะเดียวกันทางกลุ่มยังไม่มีการหารือกรณีที่อิหร่านอาจจะกลับมาผลิตน้ำมันป้อนเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง
ขณะเดียวกันโอเปกพลัสยังได้ออกมาคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2021 ว่าจะเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 96.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 90.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีก่อนหน้า
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (1 มิถุนายน) ปิดตลาดปรับลบลงเล็กน้อย แต่ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 1,905.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ในส่วนของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ราคา Bitcoin เมื่อวานนี้ขยับปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นความผันผวนที่ลดลง และส่งสัญญาณว่าตลาดคริปโตฯ กำลังฟื้นตัวกลับมา
โดยราคา Bitcoin ที่ตลาดนิวยอร์กล่าสุด ขยับขึ้นมาเล็กน้อย แตะระดับ 36,425 ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่การแกว่งตัวของราคา Bitcoin ก็ปรับตัวแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี และความผันผวนของ Bitcoin ในรอบ 10 วันลดลงจาก 162% เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม มาอยู่ที่ 106% เมื่อวานนี้
การขยับขึ้นของ Bitcoin ในครั้งนี้ ยังมีขึ้นท่ามกลางข่าวเชิงลบต่อ Bitcoin ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากกรณีที่ธนาคารกลางหลายประเทศ ประกาศพิจารณาบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการเก็งกำไร ลดความเสี่ยงและการเลี่ยงภาษีของสกุลเงินดิจิทัลและ Bitcoin
แนวโน้มทางบวก ส่งผลให้ ทอม ลี ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวิจัยข้อมูล Fundstrat Global Advisors, LLC ที่คาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin ในปีนี้มีสิทธิ์ขยับขึ้นแตะเกิน 1.25 แสนดอลลาร์สหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/financial-markets-asia-business-38298ef7a9b4cd55a082e7ca67f7d69f
- https://apnews.com/article/financial-markets-business-c8827283503c33980e5daf3374c5dd21
- https://www.channelnewsasia.com/news/business/opec-and-allies-agree-to-continue-planned-crude-output-increases-14924430
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-06-01/bruised-crypto-bulls-find-solace-in-less-violent-bitcoin-swings