วานนี้ (26 พฤษภาคม) รัฐบาลเบลเยียมตัดสินใจระงับใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบโดสเดียวของ Johnson & Johnson กับผู้มีอายุต่ำกว่า 41 ปีเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบผู้หญิงเสียชีวิตจากอาการข้างเคียงร้ายแรงหลังรับวัคซีนตัวดังกล่าว
“ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแจนเซ่น (Janssen) กับผู้มีอายุต่ำกว่า 41 ปีเป็นการชั่วคราว เพื่อรอผลวิเคราะห์ประโยชน์-ความเสี่ยงโดยละเอียดจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA)” คณะรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกลางและระดับภูมิภาคของเบลเยียมระบุในแถลงการณ์
แถลงการณ์ระบุว่า ผู้หญิงรายดังกล่าวซึ่งมีอายุต่ำกว่า 40 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาในเบลเยียม หลังจากมีอาการลิ่มเลือดอุดตันและขาดเกล็ดเลือดอย่างรุนแรง
เมื่อวันที่ 20 เมษายน คณะกรรมการความปลอดภัยของ EMA ระบุว่าอาจมีความเชื่อมโยงระหว่างอาการลิ่มเลือดอุดตันหายากกับวัคซีนโควิด-19 ของ Johnson & Johnson แต่ไม่ได้แนะนำให้จำกัดอายุสำหรับการฉีดวัคซีนตัวดังกล่าว
หลังจากนี้เบลเยียมจะใช้วัคซีนโควิด-19 ตัวใหม่กับผู้มีอายุต่ำกว่า 41 ปี ซึ่งอาจส่งผลให้แผนการฉีดวัคซีนของประเทศเกิดความล่าช้า เนื่องจากวัคซีนของ Johnson & Johnson ฉีดเพียงโดสเดียว
“หากเราไม่สามารถพึ่งวัคซีนของ Johnson & Johnson ได้ เราจะฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรเพียงร้อยละ 85 ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม” วาวเทอร์ เบเกอ รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคมภูมิภาคเฟลมิชของเบลเยียมกล่าว
อย่างไรก็ดี เบลเยียมจะเดินหน้าใช้วัคซีนโควิด-19 ของ Johnson & Johnson กับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง เช่น คนไร้ที่อยู่อาศัย
ปัจจุบันเบลเยียมมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 1,050,677 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 24,873 ราย นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดใหญ่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว