ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยหลังจากเปิดตลาดช่วงบ่าย (25 พฤษภาคม) ยังคงปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยดัชนี SET วิ่งไปทะลุระดับ 1,570 จุด ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราวๆ 20 จุด โดยหลักได้แรงหนุนจากหุ้น 3 กลุ่มหลักคือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, พลังงาน และการเงิน
ทั้งนี้ หุ้นอย่าง DELTA กลับมามีบทบาทอีกครั้ง หลังจากราคาหุ้นปรับขึ้น 13% มีส่วนหนุนดัชนีถึง 7 จุด
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ทิศทางดัชนี SET ในภาคบ่ายของวันนี้ ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวแดนบวกในกรอบ 1,555-1,570 จุด หลังนักลงทุนคลายความกังวลประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐฯ เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ยังปรับตัวลงต่อ ล่าสุดลงมาที่ระดับ 1.599% ประกอบกับยังมีความหวังของวัคซีนโควิด-19 จาก Pfizer ซึ่งล่าสุดออกมาเผยว่าจะยังคงส่งมอบวัคซีนชุดแรกจํานวน 10 ล้านโดสให้กับรัฐบาลไทยภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิปิ ประเมินว่า แม้วัคซีนจะยังไม่ได้ฉีดในเร็วๆ นี้ แต่ประเด็นนี้จะช่วยเสริมความมั่นใจว่าไทยจะมีวัคซีนทางเลือกมากขึ้น สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เลือกลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคส่งออก (สินค้า 5 อันดับแรกที่มีการขยายตัวดี ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์, นํ้ามันสําเร็จรูป, เคมีภัณฑ์, เครื่องปรับอากาศ และผลิตภัณฑ์ยาง) หรือหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 2 ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก
ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุว่า แนวโน้มตลาดภาคบ่าย คาดดัชนีจะยังแกว่งตัวแดนบวกจากแรงซื้อคืนหุ้นทั่วกระดานเข้ามาหนุน หลังดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างดีดตัวขึ้นถ้วนหน้า นอกนั้นจะเป็นแรงหนุนของราคาน้ำมัน ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะปรับขึ้นมายืนเหนือบริเวณ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในไม่ช้า
แม้สภาพตลาดจะเริ่มยืนอยู่ได้ แต่คาดว่าแรงขายทำกำไรน่าจะยังปรากฏให้เห็นเป็นระยะ จนกว่าตลาดจะมั่นใจว่าการระบาดของโควิด-19 จะคลายตัวลง หรือมีการเร่งการฉีดวัคซีน ดังนั้นทิศทางดัชนีจะยังผันผวนขึ้นลงไปถึงเดือนมิถุนายน โดยกลุ่มหุ้นที่มองว่าน่าจะมีปัจจัยหนุนในระหว่างนี้คือ กลุ่มพลังงาน โรงกลั่น และหุ้นที่ได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI ประเมินกรอบดัชนี SET แนวรับที่ 1,555-1,550 และแนวต้านที่ 1,566-1,570 จุด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
