สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า ตลาดหุ้น Wall Street เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ปิดตลาดดิ่งลงอย่างหนัก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลกับรายงานข่าวถึงแผนการขึ้นภาษีของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ทั้งนี้ 3 ดัชนีหลักของตลาดปิดตัวในแดนลบ โดยดัชนี Dow Jones ลดลง 0.94% ปิดที่ 33,815.90 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.92% ปิดที่ 4,134.98 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.94% ปิดที่ 13,818.41 จุด
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเมื่อวานนี้มีขึ้นหลังจากที่ไบเดนมีแผนปรับขึ้นภาษีเงินได้คนรวย โดยเสนอปรับขึ้นอัตราภาษีส่วนเพิ่ม จาก 37% เป็น 39.6% และภาษีกำไรที่จากการลงทุน หรือ Capital Gains Tax เกือบเท่าตัวเป็น 43.4% และปรับเพิ่มภาษีสูงถึง 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันเรียกเก็บที่ระดับ 20%
CNN ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ Wall Street จะมีปฏิกิริยาต่อข่าวการขึ้นภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นภาษี Capital Gain ซึ่งเป็นผลกำไรที่นักลงทุนได้จากการขายหุ้นในตลาด โดยนักวิเคราะห์บอกว่า ข่าวดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เทขายทำกำไรในตลาดที่ดูไร้ทิศทาง ก่อนที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่จะเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า
ด้านสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นักลงทุนรู้สึกไม่ชอบใจที่รัฐบาลไบเดนจะขึ้นภาษี Capital Gain แถมเป็นการขึ้นในสัดส่วนที่สูงมาก โดย เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดของ Onanda ได้เขียนข้อความเตือนลูกค้าว่า ความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Wall Street ขณะนี้ก็คือแนวโน้มการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการขึ้นภาษีสุดโหดของรัฐบาล ซึ่งมองว่านักลงทุนมีการจ่ายภาษีต่ำกว่าบรรดาคนทำงานทั่วไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
เจน ซากี เลขาธิการประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ไบเดนมีแผนที่จะเสนอมาตรการภาษีใหม่ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า และเป้าหมายของการขึ้นภาษีครั้งนี้ เพื่อนำรายได้ดังกล่าวมาเป็นทุนในการสนับสนุนการพัฒนาโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการใช้จ่ายด้านสังคมต่างๆ ตามแผน American Families Plan ซึ่งนอกจากการขึ้นภาษี capital Gain แล้ว ไบเดนยังมีแผนเพิ่มภาษีอสังหาริมทรัพย์อีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า แม้จะมีเป้าหมายมุ่งเก็บภาษีเงินได้จากกลุ่มผู้มีฐานะในสังคม แต่นักวิเคราะห์มองว่า ข้อเสนอบางส่วนไม่น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสได้ง่ายดายนัก โดยเฉพาะเมื่อสมาชิกจากฝั่งพรรครีพับลิกันมีจุดยืนต้องการให้ลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูจากการระบาดของโควิด-19 และมองว่าการลดภาษี Capital Gain จะช่วยสนับสนุนการออม และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในอนาคต
โดย ชัค แกรสส์ลีย์ คณะกรรมาธิการการเงินวุฒิสภา (Senate Finance Committee) จากพรรครีพับลิกัน ท้วงว่า การขึ้นภาษีจะบั่นทอนการลงทุนและทำให้อัตราการตกงานเพิ่มสูงขึ้น ก่อนเตือนไบเดนว่า อะไรที่ไม่ได้พังก็ไม่ควรที่จะซ่อมมัน
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2021/04/22/investing/dow-stock-market-capital-gains/index.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-04-22/biden-to-propose-capital-gains-tax-as-high-as-43-4-for-wealthy
- https://www.cnbc.com/2021/04/22/biden-capital-gains-tax-plan-for-rich-expected-to-pass-but-with-some-changes.html