คณะลูกขุนสหรัฐฯ มีคำตัดสินชี้ขาดให้ เดเรก ชอวิน อดีตตำรวจเมืองมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา มีความผิดในทุกข้อหา หลังใช้เข่ากดคอ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปี นานเกือบ 10 นาทีจนเสียชีวิต ระหว่างพยายามจับกุมเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา
คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นที่ศาลแขวงเฮนเนพิน เคาน์ตี ในมินนิแอโปลิส โดยคณะลูกขุน 12 คนใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ภายหลังการไต่สวนรอบสุดท้าย และให้อัยการผู้สั่งฟ้องและทนายจำเลยแถลงปิดการไต่สวน ก่อนมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ชอวินผิดใน 3 ข้อหา ได้แก่
- ฆาตกรรมระดับ 2 หรือฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา (Second-Degree Murder) มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปี
- ฆาตกรรมระดับ 3 หรือฆ่าคนตายโดยประมาท (Third-Degree Murder) โทษจำคุกไม่เกิน 25 ปี
- กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (Manslaughter) โทษจำคุก 10 ปี และ/หรือ ปรับเงิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าชอวินอาจยื่นอุทธรณ์คำตัดสินหลังจากนี้ โดยล่าสุดเขาถูกส่งไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถาน Oak Park Heights ในเมืองสติลวอเตอร์ รัฐมินนิโซตา เพื่อรอการพิพากษาตัดสินโทษในช่วงเวลา 8 สัปดาห์
ขณะที่ ปีเตอร์ เคฮิลล์ ผู้พิพากษาคดีนี้ เผยขั้นตอนหลังจากนี้ว่า ศาลจะดูข้อโต้แย้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากชอวินภายในเวลา 1 สัปดาห์ และให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นจะสั่งให้จัดทำรายงานการสืบสวนภายในเวลา 4 สัปดาห์ ตามด้วยการสรุปชี้แจงรายงานการสืบสวน รวมระยะเวลา 6 สัปดาห์จากนี้
ด้านประชาชนที่รออยู่ด้านนอกศาลต่างดีใจต่อคำตัดสินดังกล่าว ขณะที่ เบน ครัมป์ ทนายความของครอบครัวฟลอยด์เผยว่า คำตัดสินที่ออกมาเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ
“ในที่สุดความยุติธรรมที่ได้มาอย่างเจ็บปวดก็มาถึง และ (มัน) ส่งข้อความที่ชัดเจนถึงความจำเป็นในการรับผิดชอบต่อการบังคับใช้กฎหมาย ความยุติธรรมสำหรับชาวอเมริกันผิวดำ คือความยุติธรรมสำหรับชาวอเมริกันทุกคน” ครัมป์ระบุในข้อความที่โพสต์ทางทวิตเตอร์
คดีของ ฟลอยด์ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสประท้วงต่อต้านการแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิวไปทั่วสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่ฟลอยด์ เข้าไปซื้อบุหรี่ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองมินนิแอโพลิส และผู้ช่วยเจ้าของร้านเชื่อว่า เขาใช้ธนบัตร 20 ดอลลาร์ปลอมซื้อบุหรี่ ก่อนโทรแจ้งตำรวจ ภายหลังฟลอยด์ ปฏิเสธจะคืนบุหรี่
โดยตำรวจ 4 นาย รวมเชาวิน ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ และสั่งให้ฟลอยด์ ออกมาจากรถและใส่กุญแจมือเขา แต่ฟลอยด์ดิ้นและตะโกนขัดขืนระหว่างที่ตำรวจพยายามนำตัวเขาขึ้นรถ ทำให้ตำรวจจับเขากดลงกับพื้น และเชาวิน ใช้เข่ากดคอเขาจนเสียชีวิต ท่ามกลางผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนที่พยายามขอให้ตำรวจปล่อยฟลอยด์ ซึ่งฟลอยด์ ร้องขอต่อตำรวจมากกว่า 20 ครั้ง ว่าเขาอาจหายใจไม่ออก และเมื่อรถพยาบาลไปถึง ฟลอยด์ นั้นนอนนิ่งไปแล้ว ก่อนที่จะยืนยันว่าเสียชีวิตในเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวถึงคำตัดสินความผิดที่ออกมา โดยระบุว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่หยุดดำเนินการปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
“เราจะทำได้มากกว่านี้ นี่จะเป็นครั้งแรกในการจัดการกับการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบที่แท้จริง” ไบเดน กล่าว พร้อมชี้ว่าปัญหาการเหยียดเชื้อชาติเป็นรอยด่างพร้อยในจิตวิญญาณของชาวอเมริกันทั้งประเทศ
ขณะที่ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีหญิงผิวสี เรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านกฎหมายปฏิรูปการดำเนินการของตำรวจ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในมรดกที่ได้จากคดีของจอร์จ ฟลอยด์
ส่วนสหพันธ์ตำรวจมินนิแอโปลิส องค์กรไม่หวังผลกำไรที่เป็นผู้แทนของตำรวจเมืองมินนิแอโปลิส แสดงความขอบคุณต่อคณะลูกขุนในคดีนี้ที่อุทิศตนทำงานและแบกภาระใหญ่หลวงในการตัดสินคดี พร้อมส่งข้อความถึงชุมชนชาวผิวสีและแสดงความสำนึกผิดต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
“นอกจากนี้เรายังต้องการสื่อสารไปถึงชุมชน และยังคงแสดงความสำนึกผิดอย่างสุดซึ้งต่อความเจ็บปวดของพวกเขา เหมือนที่เรารู้สึกในทุกวันเช่นกัน ไม่มีผู้ชนะในคดีนี้และเราเคารพการตัดสินของคณะลูกขุน” สหพันธ์ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ยุติการชักนำทางการเมืองในเรื่องนี้
ภาพ: Reuters
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: