เวลา 11.30 น. วันนี้ (13 เมษายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน โดยภาพรวมยังพบผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ 965 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมระลอกใหม่ 5,597 ราย
สำหรับภาพรวมการติดเชื้อรายจังหวัด พบว่ากรุงเทพฯ ยังมีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดรวม 1,625 ราย ขณะที่เชียงใหม่มียอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 251 ราย เนื่องจากเชียงใหม่มีการระบาดในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาช่วงปิดเทอม
นอกจากนี้ยังพบว่าภาพรวมทั้งประเทศพบผู้ติดเชื้อ 42 จังหวัด ลดลงจากเมื่อวาน (12 เมษายน) ที่พบผู้ติดเชื้อใน 62 จังหวัด โดย นพ.โอภาส ระบุว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่จังหวัดที่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดคือพื้นที่สีแดงที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนมากกว่า 50 รายในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ชลบุรี, สมุทรปราการ, นราธิวาส, ประจวบคีรีขันธ์, สมุทรสาคร และสระแก้ว
สำหรับการคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยรายวันในระยะ 1 เดือนข้างหน้า นพ.โอภาส ระบุว่า
กรณีที่ 1: ไม่มีมาตรการใดๆ จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 9,140 ราย โดยต่ำสุดคือ 1,308 ราย และสูงสุดคือ 28,678 ราย
กรณีที่ 2: ปิดสถานบันเทิงจังหวัดเสี่ยง + คุมเข้มพฤติกรรมบุคคล จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 934 ราย ต่ำสุด 476 ราย สูงสุด 1,589 ราย
กรณีที่ 3: ปิดสถานบันเทิงจังหวัดเสี่ยง + คุมเข้มพฤติกรรมบุคคล + ลดกิจกรรมรวมตัว จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 593 ราย ต่ำสุด 378 ราย สูงสุด 857 ราย
กรณีที่ 4: ปิดสถานบันเทิงจังหวัดเสี่ยง + คุมเข้มพฤติกรรมบุคคล + ลดกิจกรรมการรวมตัว + ทำงานที่บ้าน จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 391 ราย ต่ำสุด 303 ราย สูงสุด 483 ราย
กรณีที่ 5: ปิดสถานที่เสี่ยง + คุมเข้มพฤติกรรมบุคคล + ลดกิจกรรมการรวมตัว + มาตรการองค์กร + Target Lockdown จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละน้อยกว่า 100 ราย
“แต่ขณะนี้เรามีการปิดสถานบันเทิง พี่น้องประชาชนร่วมมือกันในการควบคุมโรค ตัวเลขของเราขณะนี้อยู่ที่ 900 กว่าคน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมคือกรณีที่ 3 4 5 ถ้าตอนนี้เราพยายามลดกิจกรรมการรวมตัวกัน เช่น สนามมวย การแข่งวิ่ง เราก็จะลดผู้ติดเชื้อได้เหลือประมาณ 500 คนต่อวัน แต่อีกประการหนึ่งก็คือมาตรการ Work from Home ถ้ามีการทำมากขึ้น เราก็จะลดผู้ติดเชื้อได้เฉลี่ยไม่ถึง 400 คน บางคนถามว่าตกลงจะต้องล็อกดาวน์ไหม นี่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่เราจะไม่ล็อกทั่วไปหมด เพราะแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด สถานการณ์แตกต่างกัน เราจะล็อกดาวน์เฉพาะจุด นี่ก็จะเป็นมาตรการที่เราจะไล่ระดับไป”
นอกจากนี้ นพ.โอภาส ยังเปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งหลังจากสงกรานต์เป็นต้นไป ให้หน่วยงานราชการทุกแห่งใช้มาตรการ Work from Home เต็มรูปแบบ และจะขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ Work from Home ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนด้วย
สำหรับลักษณะของการระบาดรอบใหม่ พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานอายุ 20-29 ปี รองลงมาคือวัย 30-39 ปี และ 40-49 ปี ตามลำดับ โดยสัดส่วนการระบาดของคลัสเตอร์สถานบันเทิงส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นนักท่องเที่ยว รองลงมาคือพนักงาน และผู้สัมผัส ยกตัวอย่างกรุงเทพฯ ที่มีสัดส่วนผู้ติดเชื้อเป็นนักท่องเที่ยว 30% พนักงาน 31% ผู้สัมผัส 11% นักร้อง/นักดนตรี/ดีเจ 6% และอื่นๆ 12% โดย นพ.โอภาส ย้ำว่า ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มากในที่แออัดเป็นความเสี่ยงสูงสุด และขอให้ทุกคนหลีกเลี่ยงในช่วงนี้
จากข้อมูลยังพบว่า เมื่อมีผู้ติดเชื้อ 1 ราย จะพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงประมาณ 5 ราย โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมีอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 5-7% ส่วนถ้าเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน โอกาสเสี่ยงจะอยู่ที่ 40-100%
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
