วันนี้ (26 มีนาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีที่คนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และเสียชีวิต โดยระบุว่าไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เกิดจากผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองพอดี โดยขอร้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้ และอยู่ในระดับที่ทางการแพทย์ถือว่ารับได้
ส่วนผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนของ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกิดจากพักผ่อนน้อย ยืนยันว่าควรฉีดวัคซีน เพราะจะทำให้ลดความเสี่ยงและไม่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และเชิญชวนประชาชนทุกคนให้มาฉีดวัคซีนกัน
นอกจากนี้ อนุทินยังกล่าวถึงการเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท Sinovac ที่เข้ามา 8 แสนโดส เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา สัปดาห์หน้าจะนำไปทยอยฉีดในภูเก็ต 1 แสนโดส และสมุย 5 หมื่นโดส รวมถึงในเดือนหน้าจะมีวัคซีนเข้ามาอีก 1-2 ล้านโดส ส่วนจะเปิดจังหวัดภูเก็ตได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องประเมินผลหลังจากการฉีดวัคซีนไปสักระยะหนึ่งก่อน
“ผมต้องขอวิงวอนว่าเมื่อวัคซีนมาพร้อมแล้ว ผมต้องกราบเท้าพี่น้องประชาชนทุกคนว่าให้มารับการฉีด อย่ากลัวเพื่อรองรับวัคซีนที่มาในแต่ละเดือน ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับวัคซีนแล้วก็ได้อาสาสมัครไปเป็นคนที่บริจาคเลือดหลังได้รับวัคซีน 2 เข็มไปทดสอบว่าสามารถสร้างภูมิต้านทานได้หรือไม่” อนุทินกล่าว
สำหรับกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขึ้นทะเบียนวัคซีนของ Johnson & Johnson เป็นรายที่ 3 ต่อจากบริษัท AstraZeneca และบริษัท Sinovac ว่าเป็นการลบคำครหาว่า รัฐบาลปิดกั้นการขึ้นทะเบียนบริษัทวัคซีนยี่ห้ออื่น ซึ่งทาง Johnson & Johnson บอกกับตนว่า หากรัฐบาลไทยต้องการซื้อ สามารถส่งวัคซีนได้เร็วที่สุดคือ ในช่วงไตรมาส 4 หรือภายในเดือนตุลาคมถึงธันวาคมนี้
พิสูจน์อักษร: ชฎานิสภ์ นุ้ยฉิม