รัฐบาลสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (EU) อังกฤษ และแคนาดาพร้อมใจบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ของจีน โดยแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์วานนี้ (22 มีนาคม) ชี้ว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กับชาติพันธมิตร เป็นการดำเนินการที่ประสานงานเป็นหนึ่งเดียวกัน
“การตอบสนองข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่งสัญญาณชัดเจนไปยังผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และเราจะดำเนินการเพิ่มเติมด้วยการประสานงานกับพันธมิตรที่มีใจเดียวกัน” บลินเคน ระบุในแถลงการณ์
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากำลังดำเนินการคว่ำบาตร 2 เจ้าหน้าที่ของจีน คือ หวังจวินเจิ้ง อดีตรองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในซินเจียง และเฉินหมินกั๋ว ผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะของซินเจียง ขณะที่ EU และอังกฤษก็ดำเนินการคว่ำบาตรบุคคลทั้งสอง พร้อมเพิ่มรายชื่อหวังหมิงซาน คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ในซินเจียง และจูไห่หลุน อดีตหัวหน้าภูมิภาคซินเจียงของจีน
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์ประณามการคว่ำบาตรดังกล่าวว่า อ้างอิงจากคำโกหกและข้อมูลที่บิดเบือน ก่อนจะประกาศตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตร 10 บุคคล และ 4 สถาบันของยุโรปที่ “แพร่กระจายการโกหกและการบิดเบือนข้อมูลอย่างมีเจตนาร้าย” ซึ่งในจำนวนบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร มีสมาชิกรัฐสภายุโรป 5 คนรวมอยู่ด้วย
สำหรับมาตรการคว่ำบาตรของ EU ในครั้งนี้ ถือเป็นการลงโทษทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ต่อจีนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในปี 1989 เอกสารทางการของ EU กล่าวหาเฉินหมินกั๋ว ว่าดำเนินการ “กักขังอย่างไร้เหตุผลและปฏิบัติอย่างต่ำช้าต่อชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ตลอดจนดำเนินการอย่างเป็นระบบเพื่อละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนาหรือความเชื่อ”
นอกจากนี้ อังกฤษ และ EU ยังคว่ำบาตร Xinjiang Production and Construction Corps (XPCC) ซึ่งเป็นองค์กรทางการทหารและเศรษฐกิจในซินเจียง โดยรัฐบาลสมาชิก EU ทั้ง 27 ประเทศต่างเห็นพ้องต่อการดำเนินการคว่ำบาตรดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ บลินเคน พร้อมด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 4 ประเทศพันธมิตร ได้แก่ อังกฤษ, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดาได้เผยแพร่แถลงการณ์ร่วม ระบุถึงหลักฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ว่ามีทั้งเอกสารของรัฐบาลจีน ตลอดจนภาพถ่ายดาวเทียมและประจักษ์พยานที่พบเห็นการกระทำของทางการจีน พร้อมยืนยันว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรจะเดินหน้าเน้นย้ำถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีนต่อไป “เราจะยืนหยัดร่วมกันต่อไป เพื่อเน้นย้ำความสำคัญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีน” แถลงการณ์ระบุ
ที่ผ่านมา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่ามีชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคนถูกกักตัวอยู่ในค่ายกักกัน และมีรายงานการทารุณกรรม และบังคับใช้แรงงาน ขณะที่รัฐบาลปักกิ่ง ยืนยันว่าการดำเนินการในซินเจียงนั้นเป็นไปเพื่อขจัดปัญหามุสลิมที่มีแนวคิดสุดโต่งขณะที่จาง หมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำ EU กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าการคว่ำบาตรนั้นจะไม่กระทบต่อนโยบายของปักกิ่ง พร้อมเตือนว่าอาจเผชิญการตอบโต้กลับ
“เราต้องการการพูดคุย ไม่ใช่การเผชิญหน้า เราขอให้ฝ่ายสหภาพยุโรปคิดทบทวน แต่หากบางคนยืนกรานที่จะเผชิญหน้า เราจะไม่ยอมถอย เพราะเราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการปฏิบัติเพื่อรับผิดชอบต่อประชาชนในประเทศของเรา” เขากล่าว
ภาพ: Tayfun Coskun / Anadolu Agency via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชฎานิสภ์ นุ้ยฉิม
อ้างอิง:
