×

เอ็นโกโล ก็องเต กับการกลับมาอีกครั้งของมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดของโลก

18.03.2021
  • LOADING...
เอ็นโกโล ก็องเต

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี ภายใต้การนำของ โธมัส ทูเคิล ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไปเป็นเกมที่ 13 หลังจากที่สามารถสยบทีมแกร่งอย่างแอตเลติโก มาดริด จ่าฝูงลาลีกาลงได้อย่างราบคาบในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

 

แต่หนึ่งในเหตุผลที่ชัดเจนที่สุดคือฟอร์มการเล่นของเอ็นโกโล ก็องเต มิดฟิลด์ตัวรับ ที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์ไปครอง ท่ามกลางเสียงปรบมือของแฟนฟุตบอลทั่วโลกที่ได้ชม

 

ตลอดทั้งเกมที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ ก็องเตในวัย 29 ปี โดดเด่นเหนือใคร ปรากฏกายไปทั่วสนามทั้งรับทั้งรุก ซึ่งครั้งหนึ่ง พอล ป็อกบา ในฐานะเพื่อนร่วมทีมชาติฝรั่งเศส อดแซวไม่ได้ว่าเหมือนมี ‘15 ปอด’ 

 

แม้แต่ทูเคิลเองก็ยอมรับว่าการมีดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสอยู่ในทีมนั้นเหมือนได้ ‘ผู้เล่นคนครึ่ง เข้ามาอยู่ในทีม

 

“การได้เป็นโค้ชของเขาเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับผมเขาคือของขวัญชิ้นใหญ่ เป็นคนที่ถ่อมตัว และเป็นคนที่ช่วยทีมได้อย่างมากในสนาม”

 

แน่นอนว่าจุดเด่นที่สุดสำหรับก็องเตคือเรื่องของการทำลายเกมของคู่ต่อสู้ ซึ่งในระบบการเล่นใหม่ 3-4-3 ของเชลซี มีส่วนในการทำให้กองกลางที่เคยเหมือนหลงทางและสูญเสียตัวตนไปใน 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

 

จากสถิติการเล่นในฤดูกาลนี้ ก็องเตลงสนามไปแล้ว 25 นัดในพรีเมียร์ลีก (นับจนถึงปัจจุบัน) สถิติการเข้าสกัดของเขาอยู่ที่ 36 ครั้ง ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 6 ในลีก และการตัดเกมอยู่ที่ 54 ครั้ง สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของลีก

 

ตัวเลขดังกล่าวนั้นอาจจะยังไม่ดีเหมือนในฤดูกาล 2016/17 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขาย้ายจากทีมเลสเตอร์ที่แสนมหัศจรรย์มาอยู่กับเชลซี และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ต่อเนื่องทันที โดยในฤดูกาลนั้นเขาลงสนาม 35 นัด เข้าสกัด 82 ครั้ง (อันดับ 3) และตัดเกม 82 ครั้ง (อันดับ 2) 

 

รวมถึงในฤดูกาล 2017/18 แม้ว่าผลงานของเชลซีจะไม่ดีเท่าเก่า แต่ผลงานของฮาร์ดแมนรายนี้ยังยอดเยี่ยม โดยในการเล่น 34 นัด เขาเข้าสกัด 77 ครั้ง เป็นอันดับที่ 2 ในลีก และตัดเกม 85 ครั้ง เป็นอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีก

 

แต่อย่างน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับผลงานในช่วงที่เมาริซิโอ ซาร์รี (ซึ่งเขาถูกปรับบทบาทใหม่ เพราะซาร์รีต้องการให้จอร์จินโญ กองกลางคนโปรดเล่นในบทตัวรับตรงกลางแทน)​ และแฟรงค์ แลมพาร์ด คุมทีมอยู่ ก็องเตก็ดูค้นพบหนทางของตัวเองอีกครั้ง โดยเฉพาะในบทของการตัดเกม ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นมาหลายนัดก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาถึงจุดที่ทุกคนเริ่มตระหนักว่าก็องเตคนเก่ากลับมาแล้ว หลังช่วงเวลาที่เหมือนทุกอย่างจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม

 

หรือบางทีเขาอาจจะเล่นได้ดีกว่าเก่า เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของชีวิตก็ว่าได้เหมือนกัน

 

อย่างไรก็ดี คุณค่าในตัวของมิดฟิลด์รายนี้ไม่ได้อยู่แค่เรื่องของการเป็น Destroyer หรือนักทำลายเท่านั้น เพราะก็องเตมีความสามารถรอบตัวที่ครบเครื่องจนใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ

 

เรื่องนี้ทูเคิลเป็นผู้การันตีด้วยตัวเอง “อย่าประเมินค่าความสามารถในการผ่านบอล การเลี้ยงบอล และการพาตัวเองหนีจากสถานการณ์กดดันของเขาน้อยเกินไป”

 

ที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งทูเคิลมองว่าทั้งก็องเต รวมถึงคู่หูอย่างมาเตโอ โควาซิช นั้นจำเป็นต้องเร่งผลงานของตัวเองขึ้นมา เพราะทีมไม่มีจอร์จินโญ กองกลางในสไตล์ห้องเครื่องแบบคลาสสิก ทำให้อะไรที่ดาวเตะทีมชาติอิตาลีเชื้อสายบราซิลทำได้ พวกเขาก็ต้องทำได้เพื่อเป็นการทดแทน

 

ถึงจะไม่สามารถเลียนแบบการผ่านบอลของจอร์จินโญ โดยเฉพาะการวางบอลยาวซึ่งไม่ได้ดีแค่เรื่องของน้ำหนักและทิศทาง แต่สำคัญกว่านั้นคือ ‘วิสัยทัศน์’ ในการผ่านบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำตามได้ยาก รวมถึงความสามารถในการเป็นเครื่องกำหนดจังหวะการเล่นของทีม 

 

แต่อย่างน้อยก็องเตก็ทำได้ดี และควรจะพูดว่าดีกว่าที่หลายคนจะคิดว่าเขาจะทำได้ด้วย 

 

รวมถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือการใส่หัวใจที่ร้อนแรงลงไปในการเล่น ซึ่งทุกคนสัมผัสได้ ต่อให้ไม่ต้องพูดอะไรมากมายก็ตาม

 

แน่นอนว่าเรื่องการปรับระบบการเล่นมีส่วนสำคัญ เพราะทูเคิลทำให้เขาได้กลับมาเล่นในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง และยังมีคู่หูในแดนกลางที่แล้วแต่ว่าจะเป็นโควาซิชหรือจอร์จินโญ ที่มีจุดเด่นและความเก่งกาจกันคนละแบบ

 

เพียงแต่การจะปรับแท็กติกหรือเปลี่ยนอะไรก็ตาม จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากก็องเตไม่ตั้งใจอย่างเกินร้อยทั้งสนามจริงและสนามซ้อม 

 

คำตอบที่เสียงดังฟังชัดที่สุดต่อคนที่ตั้งข้อสงสัยในตัวเขาไม่ใช่การโต้แย้งหรือโต้เถียง แต่หากเป็นการก้มหน้าก้มตาเพื่อพิสูจน์ตัวเองผ่านผลงานให้เป็นที่ประจักษ์


วันนี้เราได้เห็นกันแล้วว่าก็องเต ที่เคยเป็นกองกลางตัวรับที่เจ๋งที่สุดในโลกได้กลับมาแล้ว และเขาคือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้เชลซีเวลานี้ไร้พ่ายมา 13 นัดติดต่อกันในยุคใหม่ของกุนซือชาวเยอรมนี

 

และดูแนวโน้มแล้ว ก็องเตกับเชลซีอาจจะไม่หยุดง่ายๆ เพียงแค่ตรงนี้

ตราบใดที่มีเขาอยู่ในสนาม อย่าหวังว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ เลย!

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X