เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แสดงความเห็นตอบโต้ข้อกังขาและความวิตกกังวลของผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนส่วนหนึ่งที่ระบุว่า มาตรการฟื้นฟูเยียวยามูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับการอนุมัติและกำลังนำมาใช้อยู่ในเวลานี้ จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เร็วขึ้น
งานนี้เยลเลนในฐานะรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ลุกขึ้นมายืนกรานหนักแน่นว่า ตนเองไม่เห็นว่าเงินเฟ้อจะเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำออกมาเตือนว่า มาตรการเยียวยาระลอกใหม่นี้จะกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของประเทศ และทำให้เกิดแรงกดดันต่อเงินเฟ้ออย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้
เยลเลนกล่าวแสดงความเห็นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า งานในระดับนโยบายก็คือการบริหารและระบุปัจจัยเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงสำคัญที่สหรัฐฯ เผชิญอยู่ในขณะนี้ก็คือ ปัญหาเรื่องแรงงานที่มีคนว่างงานมากขึ้นและนานขึ้น
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลดลง ดังนั้นเมื่อได้แผนกระตุ้นที่ทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ย่อมเป็นธรรมดาที่ราคาต่างๆ จะปรับเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่สหรัฐฯ เคยมีประสบการณ์ในการจัดการเงินเฟ้อมาแล้ว ดังนั้นกระทรวงการคลังรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ย่อมมีวิธีการในการรับมืออยู่แล้ว
ในส่วนของหนี้สาธารณะ เยลเลนยอมรับว่า ระดับหนี้ค่อนข้างสูง แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และทางกระทรวงการคลังได้เฝ้าระวังจับตาดูอย่างใกล้ชิดแล้ว
ด้านบิตคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.64% มาอยู่ที่ 61,073.71 ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติสูงสุดระลอกใหม่อีกครั้งภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังเพิ่งจะทำราคาสูงสุดไปที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาของบิตคอยน์ได้ปรับเพิ่มขึ้น 2 เท่า หรือประมาณ 107% จากวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้วที่บิตคอยน์มีราคาอยู่ที่ 28,987.60 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ย่างเข้าปี 2021 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็มีข่าวเซอร์ไพรส์สร้างสีสัน และดันราคาบิตคอยน์ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ได้ออกมากล่าวเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่า บริษัทได้ปรับสัดส่วนดุลบัญชีด้วยการเพิ่มบิตคอยน์เข้าไปมูลค่ามากถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งสัญญาณสนับสนุนบิตคอยน์ด้วยการเตรียมเปิดทางให้ผู้บริโภคในตลาดสามารถใช้บิตคอยน์ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของทาง Tesla ได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในตลาดบิตคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ เพราะคาดหวังว่าจะมีบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในตลาดตบเท้าเข้าร่วมมากขึ้น ตามรอยบริษัทดังๆ ที่มีการลงทุนไปบ้างแล้ว เช่น Square, PayPal, MicroStrategy และ BlckRock
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: