โจน ลาปอร์ตา มั่นใจ “เมสซีจะอยู่ต่อไป” หลังได้รับเลือกเป็นประธานบาร์ซาครั้งที่ 2

โจน ลาปอร์ตา ได้รับการเลือกให้เป็นประธานสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาเป็นครั้งที่ 2 ของชีวิต ด้วยชัยชนะที่เด็ดขาดเหนือคู่แข่ง ในการเลือกตั้งประธานสโมสรครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมประกาศอย่างมั่นใจว่า ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของสโมสร จะอยู่กับสโมสรต่อไป

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสโมสรบาร์เซโลนาคนใหม่ หลังจากที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ลาออกจากตำแหน่งก่อนวาระเมื่อเดือนตุลาคม หลังเผชิญกับกระแสกดดันอย่างหนักจากการบริหารที่ผิดพลาดและล้มเหลว โดยล่าสุดถูกตรวจสอบเรื่องคดีคอร์รัปชั่นในการว่าจ้างบริษัทเอกชนมาโจมตีกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ ซึ่งมีทั้งผู้เล่นปัจจุบัน อดีตผู้เล่น และผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสโมสรด้วย

ผลการเลือกตั้งซึ่งมีบรรยากาศที่คึกคัก โดยได้เห็นบุคคลสำคัญออกมาใช้สิทธิ์อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวของเมสซีและนักเตะคนอื่นในทีม รวมถึง หลุยส์ เอ็นริเก โค้ชทีมชาติสเปนที่เป็นอดีตผู้เล่นของสโมสร ปรากฏว่า เป็นทางด้านลาปอร์ตาที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด 57.6 เปอร์เซ็นต์ จากผลโหวตทั้งหมด 99% เอาชนะคู่แข่งอย่าง บิคตอร์ ฟอนต์ ที่มาเป็นที่ 2 ได้คะแนน 31.8 เปอร์เซ็นต์ และ โทนี เฟรซา ซึ่งเป็นสายของบาร์โตเมว อดีตประธานได้ 9.1 เปอร์เซ็นต์ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งการเลือกตั้งที่คูหาและการลงคะแนนทางไกลรวมทั้งหมด 51,765 คน จากจำนวนสมาชิกของบาร์เซโลนาทั้งหมด 109,531 คน

หลังได้รับชัยชนะลาปอร์ตา ซึ่งได้รับตำแหน่งประธานสโมสรเป็นครั้งที่ 2 หลังเคยได้รับเลือกสมัยแรกในปี 2003 และได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอีกครั้งโดยไม่มีคู่แข่งในปี 2006 จนอยู่ในตำแหน่งถึงปี 2010 แต่ได้แสดงท่าฉลองชัยชนะด้วยการชูสองนิ้ว เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและเป็นการสื่อถึง โยฮัน ครอยฟ์ อดีตตำนานสโมสรผู้ยิ่งใหญ่ผู้วางรากฐานของบาร์เซโลนาสมัยใหม่ ได้กล่าวถึงหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดของสโมสรนอกจากการพาทีมฝ่าวิกฤตทางการเงินแล้ว คือการทำให้เมสซีอยู่กับทีมต่อไป และจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าสตาร์วัย 33 ปี จะอยู่กับทีมต่อไป

“การได้เห็น ลิโอเนล เมสซี มาลงคะแนนวันนี้ การได้เห็นเขามีส่วนร่วมมันบ่งบอกอะไรอย่างชัดเจน” ลาปอร์ตากล่าว

“เมื่อ 20 ปีก่อน เขาเริ่มต้นในทีมเยาวชนของบาร์ซา การได้เห็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลกมาร่วมโหวตในวันนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงสิ่งที่เราพยายามพูดมาตลอดว่า ลีโอรักบาร์ซา

“ผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกรักบาร์ซา และผมหวังว่านี่คือสัญญาว่าเขาจะอยู่กับบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ”

อย่างไรก็ดี ปัญหาใหญ่สำหรับบาร์ซาคือเรื่องหนี้สินที่มีมากกว่า 1.4 พันล้านยูโร และมีหนี้สุทธิ 488 ล้านยูโร ซึ่งเกิดขึ้นจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ทำให้สโมสรสูญเสียรายได้มหาศาลจากแฟนบอลทั่วโลกที่ไม่สามารถมาชมเกมที่สนามได้ ซึ่งปัญหานี้จะวัดฝีมือการบริหารของลาปอร์ตาและทีมงานว่าจะพาทีมฝ่าวิกฤตได้หรือไม่

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: