Ark Innovation ETF หรือ ARKK ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ Ark Investment เผชิญกับภาวะขาลง รับผลกระทบจากราคาหุ้นเทคฯ ที่ปรับตัวลดลง จากแรงเทขายหุ้นของนักลงทุน โดยเฉพาะวานนี้ (3 มีนาคม) วันเดียว มูลค่าหายไปราว 6.3% และลดลงราว 20% จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า กองทุน ARKK มูลค่าลดลงอีก 6.3% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากหุ้นที่เติบโตสูง เช่น Pinterest Inc. และ Zillow Group Inc ซึ่งอยู่ในพอร์ตลงทุนของ ARKK ถูกเทขายอย่างหนัก อีกทั้งดัชนี Nasdaq 100 ก็ปรับลดลงเกือบ 3% จากแรงขายหุ้นเทคฯ ของนักลงทุน เพื่อสลับไปลงทุนในหุ้นคุณค่าแทน
ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวที่ปรับสูงขึ้น เสน่ห์ของตลาดหุ้นจึงลดลง สะท้อนจากความผันผวนของมูลค่ากองทุน ARKK หนึ่งในกองทุนยอดนิยมในวอลล์สตรีท ซึ่งขยายตัวถึง 10 เท่าในปีที่แล้ว ดูดสภาพคล่องเข้ากองไปกว่า 2.37 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนมูลค่ากองกระโดดแตะระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ แต่ ณ ปัจจุบัน มูลค่ากลับปรับลดลงราว 20% ซึ่งเป็นระดับที่เรียกได้ว่าเข้าสู่ภาวะตลาดซึม (Bear Market)
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมากว่า 0.5% (50 Basis Points) ในปี 2021 ซึ่งเป็นการขยับขึ้นมากสุดรายไตรมาส นับตั้งแต่ปี 2016 ทำให้การทำนายหรือประเมินมูลค่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
หลักทรัพย์ที่ ARKK ลงทุนมากสุด 3 อันดับแรกคือ Tesla Inc., Square Inc. และ Roku Inc. ซึ่งมูลค่าเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีที่ผ่านมา กล่าวคือ ราคาหุ้น Tesla Inc. เพิ่มขึ้น 350%, Square Inc. เพิ่มขึ้น 200% และ Roku Inc. เพิ่มขึ้นมากกว่า 240% อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ผ่านมา หุ้นเหล่านี้ถูกเทขายจนราคาร่วงลงอย่างหนัก
ไม่เฉพาะ 3 หุ้นหลักในพอร์ตของ ARKK เท่านั้น หุ้นอื่นๆ ก็ปรับลดลงเช่นกัน เช่น Stratasys Ltd. ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และ Veracyte Inc. ซึ่งพัฒนาการทดสอบระดับโมเลกุลสำหรับเนื้องอกวิทยา
อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนที่เน้นสร้างการเติบโตระยะยาวนั้น การเลือกหุ้นที่สร้างกำไรได้ในระยะสั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก และในความเป็นจริงแล้ว 2/3 ของหุ้นที่ ARKK ถือครองในปัจจุบันก็ยังไม่มีกำไรในปีที่ผ่านมา และแม้จะมีหุ้นที่ขาดทุนในพอร์ต แต่ผลตอบแทนกอง ARKK ก็ยังปรับขึ้นเล็กน้อย
ในส่วนของเงินทุนที่ไหลเข้า แม้ว่าจะลดลง แต่ก็ยังไม่พบการไหลออกอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกัน พบว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้ากองราว 600 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีเงินไหลออกไปมากกว่า 690 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน
ไมเคิล เพิร์ฟส์ (Michael Purves) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tallbacken Capital Advisors ให้ความเห็นว่า ตอนนี้มีความไม่สบายใจเพิ่มขึ้นในตลาด และมีข้อสงสัยว่าสินทรัพย์เสี่ยงสูงจะสามารถไต่ระดับต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งหากความเชื่อมั่นเปลี่ยนไป ก็จะเห็นเงินไหลออกอย่างมาก
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
