วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอายุ 90 ปี ที่นักลงทุนสาย VI (Value Investor) ต้องรู้จัก เพราะความมั่งคั่งและทรัพย์สินล้วนงอกเงยจากการลงทุน จนกลายเป็นนักลงทุนที่ทั่วโลกจับตามอง
นอกจากนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัท Berkshire Hathaway (ระยะแรกเป็นบริษัทสิ่งทอ) ยังใช้บริษัทนี้ในการลงทุนทั่วโลก โดยล่าสุดเขาเล่าว่า การลงทุนครั้งใหญ่ของ Berkshire Hathaway ที่เข้าซื้อ Precision Castparts Corp (PCC) ช่วงปี 2016 มูลค่ากว่า 32,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ “เป็นการจ่ายที่มากเกินไป”
ทั้งนี้ Precision Castparts Corp เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการบิน วอร์เรน บัฟเฟตต์ มองว่า เป็นบริษัทที่ดีและดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งโชคดีมากที่มี มาร์ก โดเนแกน เป็นซีอีโอบริหารงานอยู่ ซึ่งวอร์เรนยอมรับว่า เขามองศักยภาพแง่บวกมากเกินไปในศักยภาพกำไรของ PCC ในช่วงเวลาปกติ
โดยจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบหนักต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน ส่งผลให้ปี 2020 PCC ปรับลดพนักงานลง 40% หรือราว 13,400 ตำแหน่ง ส่วน Berkshire Hathaway มีการตัดขายออกราว 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม 2020
“ผมคิดผิดในการคำนวณค่าเฉลี่ยรายได้ในอนาคต ทำให้การคำนวณราคาที่เหมาะสมเพื่อซื้อธุรกิจนี้ผิดพลาด”
โดย 2 ปีก่อนหน้านี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยออกมายอมรับว่าจ่ายเงินสูงเกินไปสำหรับ Kraft Foods หรือปี 2008 ที่เขาพูดถึงดีลที่แย่ที่สุดคือ Dexter Shoe
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูกลยุทธ์การลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเห็นการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Amazon (AMZN) Apple แต่ส่วนใหญ่ของ Berkshire Hathaway ยังลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มูลค่าอาจจะเติบโตช้า เช่น Chevron (CVX), Verizon (VZ), American Express (AXP) และ Coca-Cola (KO)
สุดท้ายแล้วทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงทั้งขาขึ้นและขาลงเสมอ โดย วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังพูดอีกว่า “ในอนาคตผมย่อมมีข้อผิดพลาดได้อีกแน่ๆ”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
