เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) รายงานกำไรสุทธิ 4Q63 ที่ 1.5 พันล้านบาท ลดลง 12%YoY แต่เพิ่มขึ้น 10%QoQ ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 1.47 พันล้านบาท โดยกำไรที่ลดลง YoY มีสาเหตุมาจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจโฮมโปรที่หดตัวลง 6-7%YoY เพราะได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค ซึ่งไปหักล้างกับผลกระทบเชิงบวกจากมาตรการลดหย่อนภาษีช้อปปิ้ง (ช้อปดีมีคืน)
ขณะที่ EBIT Margin ลดลง 150 bps YoY สู่ระดับ 12.7% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลง เพราะเหตุผล 2 ประการดังนี้
- สัดส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรต่ำเพิ่มขึ้น และสัดส่วนยอดขายสินค้า Private Brand ที่ให้อัตรากำไรสูงลดลง
- รายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นๆ ลดลง 12%YoY ตามการลดลงของส่วนแบ่งรายได้จากผู้เช่าตามจำนวนลูกค้าที่ลดลง ขณะที่บริษัทยังคงส่วนลดค่าเช่าแก่ผู้เช่าที่ 10-20% เท่ากับ 3Q63
นอกจากนี้ HMPRO ยังประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 22 เมษายน 2564
กระทบอย่างไร :
เมื่อวานนี้ราคาหุ้น HPRO ไม่เคลื่อนไหวมากนัก และปิดที่ระดับ 13.20 บาทเท่ากับราคาปิดวันก่อนหน้า ขณะที่วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น HMPRO ปรับตัวขึ้น 1.5%DoD สู่ระดับ 13.40 บาท (ข้อมูล ณ เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น :
SCBS คาดแนวโน้มกำไร 1Q64 ของ HMPRO จะลดลง QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาลและลดลง YoY เนื่องจาก SSSG ยังคงหดตัว แต่หดตัว YoY น้อยกว่า 4Q63 ที่หดตัว 6-7%YoY เพราะรัฐบาลมีคำสั่งให้ร้านค้าเปิดบริการบางส่วน นอกจากนี้รายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นๆ จะยังคงลดลงใน 1Q64 เนื่องจากได้รับผลกระทบบางส่วนจากมาตรการยับยั้งโควิด-19 ในช่วงการระบาดระลอกใหม่
มุมมองระยะยาว :
SCBS คาดว่ากำไรของ HMPRO ปี 2564 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2563 (หลักๆ จะเกิดขึ้นใน 2Q64 เพราะเป็นช่วงฐานต่ำเมื่อปีที่แล้ว) โดยได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของ SSSG และรายได้ค่าเช่าที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการยับยั้งโควิด-19
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
