กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงเต็มไปด้วยความผันผวน โดยช่วงปลายเดือนมกราคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยออกมาร่วม 10 วันทำการติดต่อกัน คิดเป็นมูลค่าการขายสุทธิรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง โดย 2 วันทำการที่ผ่านมามียอดซื้อสุทธิรวมกว่า 6,276 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ (10 กุมภาพันธ์) นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 1,182 ล้านบาท เท่ากับว่ารวม 3 วัน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมกว่า 7,458 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นที่หมายปองของเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow) จากต่างประเทศ โดยไทยมีโอกาสได้ฉีดวัคซีนในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หนุนให้ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา (8-9 กุมภาพันธ์) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากสุดในภูมิภาคที่ประมาณ 6.2 พันล้านบาท
นอกจากนี้เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อ หลังจากปรับขึ้นมาแล้ว 8 วันทำการติดต่อกัน และถ้าคิดตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันขึ้นมาแล้วราว 9.3% ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีสัดส่วนต่อหุ้นไทยถึง 1 ใน 4 ขณะเดียวกันยังทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วย ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม หนุนให้เงินทุนเคลื่อนย้าย มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองถือเป็นประเด็นที่ถูกนำมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อดัชนีหุ้นไทย โดยมีพัฒนาการ 2 เรื่องสำคัญที่ต้องติดตามคือ ความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียง 366 ต่อ 316 เสียง ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ในมุมหนึ่งแม้จะมองได้ว่าเป็นความรอบคอบในการดำเนินการแก้ไขกฎหมายสำคัญของประเทศ แต่อีกทางหนึ่งก็ถูกมองว่าเป็นการทำให้กรอบเวลาในการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องล้าช้าออกไป ซึ่งมติดังกล่าวของรัฐสภาอาจทำให้สถานการณ์การเมืองนอกสภาร้อนแรงขึ้น และในอีกมุมหนึ่งหากพิจารณาในเรื่องของการลงคะแนนของพรรคการเมืองต่างๆ ในญัตตินี้ พบว่าพรรคร่วมรัฐบาลหลักอย่างประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยก็ไม่ได้ลงมติเห็นด้วยกับแนวทางนี้ ซึ่งต้องติดตามพัฒนาการในเรื่องนี้ต่อไป
อีกประเด็นคือการนัดชุมนุมกลุ่มราษฎร ซึ่งวันนี้ (10 กุมภาพันธ์) กลุ่มราษฎร ได้นัดชุมนุมที่สกายวอล์กหน้า MBK Center ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้การนัดชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำ 4 คนได้เดินทางมาตามที่อัยการนัดส่งฟ้องคดีต่อศาลอาญาในข้อหาหมิ่นประมาทสถาบัน (ม.112 ประมวลกฎหมายอาญา) และศาลไม่ให้ประกันตัว
ทั้ง 2 ประเด็นแม้จะยังไม่เห็นความรุนแรง หรือพัฒนาการที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่น่าจะส่งผลทำให้ภาพรวมสถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในเชิงของ Sentiment การลงทุนแล้วอาจมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow ที่กำลังไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ นักลงทุนจึงควรติดตามพัฒนการของเหตุการณ์ทางการเมืองใกล้ชิดขึ้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
