ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ใช้เวทีประชุม World Economic Forum ส่งสารเตือนไปยัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ว่าเขามีความเสี่ยงทำให้เกิดสงครามเย็นรอบใหม่ หากไบเดนยังดำเนินนโยบายกีดกันการค้าและปกป้องตลาดตามแบบ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า
การประชุม World Economic Forum 2021 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ (25 มกราคม) ซึ่งปีนี้ยังคงจัดในรูปแบบเวอร์ชวล สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด โดยมีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วมประชุมทางไกล ซึ่ง สีจิ้นผิง ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้นานาชาติใช้กลไกพหุภาคีในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ประเทศต่างๆ ไม่ควรใช้โรคระบาดเป็นข้ออ้างในการพลิกกลับโลกาภิวัตน์ เพื่อแบ่งแยกเศรษฐกิจออกจากกันหรือโดดเดี่ยวตัวเอง
แม้ สีจิ้นผิง เลี่ยงเอ่ยชื่อไบเดนและสหรัฐฯ โดยตรงในสปีชแรก หลังทรัมป์ก้าวลงจากเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ผู้นำจีนย้ำชัดว่า จีนไม่ต้องการถูกบงการโดยสหรัฐฯ
“การสร้างวงกลมขนาดเล็กหรือเริ่มสงครามเย็นครั้งใหม่ การปฏิเสธ, คุกคาม หรือข่มขู่คนอื่นๆ การจงใจแยกเศรษฐกิจออกจากกัน, ขัดขวางซัพพลายเชน หรือใช้มาตรการคว่ำบาตร ตลอดจนการหันไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวหรือเหินห่าง มีแต่จะผลักโลกสู่ความแตกแยก หรือแม้แต่ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันขึ้น” สีกล่าว
ผู้นำจีนยังกล่าวย้ำความสำคัญของระบบพหุภาคีว่า ไม่มีปัญหาระดับโลกอันใดที่สามารถแก้ไขได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องมี “มาตรการระดับโลก การตอบสนองระดับโลก และความร่วมมือระดับโลก”
ที่ผ่านมาไบเดนยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเขาจะผ่อนคลายท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีน หลังความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจตึงเครียดขึ้นอย่างมากตลอด 4 ปีของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ขณะที่ไบเดนก็มีนโยบาย ‘ซื้อของอเมริกัน’ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมในประเทศเช่นกัน
สีกล่าวว่า “เราควรสร้างระบบเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง รักษาระบอบการค้าพหุภาคี ปฏิเสธกฎและระบบที่เลือกปฏิบัติและกีดกัน ตลอดจนทลายอุปสรรคการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยี”
ภาพ: แฟ้มภาพปี 2017 / Fabrice Coffrini / AFP
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: