วันนี้ (15 มกราคม) เวลา 01.00 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 แมกนิจูด บนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย เบื้องต้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน อาคารบ้านเรือนจำนวนมากเสียหาย ขณะที่ประชาชนต่างตื่นตกใจและเร่งอพยพไปยังที่ปลอดภัย
ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวนี้อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม. ห่างจากเมืองมาเจเนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 6 กม. โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้นานถึง 7 วินาที แต่ไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ
หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซียรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บในเมืองมาเจเนเพียงเมืองเดียวถึง 637 คน และมีผู้เสียชีวิตทันที 4 คน ส่วนที่เมืองมามูจูที่อยู่ใกล้เคียง มีผู้เสียชีวิต 3 คน และประชาชนบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ราว 24 คน
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนไม่นาน ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่กำลังหลับพักผ่อน ได้สร้างความตื่นตระหนก วิดีโอที่เผยแพร่บนสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นผู้คนหนีตายออกจากบ้าน และพยายามขับจักรยานยนต์ขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย
จนถึงตอนนี้ มีรายงานบ้านเรือนที่เสียหายจากแผ่นดินไหวมากกว่า 60 หลัง ในจำนวนนี้รวมถึงโรงแรม 2 แห่ง ศาลากลางจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก ห้างสรรพสินค้า ส่วนเส้นทางเข้าเมืองมามูจูถูกตัดขาดจากสะพานที่ได้รับความเสียหาย เป็นอุปสรรคต่อการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่
แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวทำให้อาคารบางแห่งพังถล่มลงมา และมีรายงานว่ามีเด็กติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งประชาชนพยายามเข้าช่วยเหลือด้วยมือเปล่า
ก่อนหน้าที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.9 แมกนิจูดในบริเวณเดียวกัน ส่งผลให้บ้านเรือนหลายแห่งเสียหาย
หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซียระบุว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังได้ก่อให้เกิดดินถล่มไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง และระบบไฟฟ้าล่มเป็นบริเวณกว้าง
ประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า ‘วงแหวนแห่งไฟ’ หรือ ‘แนวเทือกเขารอบมหาสมุทรแปซิฟิก’ เป็นแนวภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่น เป็นต้นกำเนิดของแผ่นดินไหว 90% บนโลก
เกาะสุลาเวสีเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 แมกนิจูดมาแล้วเมื่อปี 2018 ซึ่งครั้งนั้นแรงสั่นสะเทือนได้ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมืองปาลู คร่าชีวิตประชาชนไปหลายพันคน
ภาพ: Mawardi / AFP
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: