Apple ตัดสินใจปิดให้บริการ Apple Store ของพวกเขาทั้งหมด 53 แห่งในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และอีก 16 แห่งในรัฐเทนเนสซี, บราซิล, เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดแล้วตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังในพื้นที่ดังกล่าวมียอดการระบาดของโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Apple กล่าวในแถลงการณ์ของบริษัทว่า “เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้ในบางชุมชนที่เราให้บริการอยู่ เราจึงมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการหน้าร้านของเราในพื้นที่เหล่านั้นชั่วคราว
“เราดำเนินการในขั้นตอนนี้ด้วยความระมัดระวังควบคู่ไปกับการติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และเราคาดหวังที่จะได้กลับมาให้บริการลูกค้าด้วยทีมงานของเราในเร็ววันนี้”
ทั้งนี้ การประกาศปิดให้บริการสโตร์ของพวกเขาในตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีสักเท่าไร เพราะถึงแม้ Apple จะยังคงเปิดให้บริการสโตร์ผ่านเว็บไซต์และหน้าร้านออนไลน์ตามปกติ แต่ลูกค้าจำนวนไม่น้อยก็ยังคงคาดหวังที่จะได้เดินทางมาสัมผัสผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปลายปีที่คนมักจะซื้อของขวัญให้กัน รวมถึงช่วงที่ Apple เพิ่งเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง iPhone 12, Apple Watch 6, iPad และ MacBook M1 ออกมา
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.engadget.com/apple-closes-stores-in-california-and-the-uk-as-covid-19-cases-soar-083013840.html
- https://www.nytimes.com/2020/12/19/business/apple-closes-all-california-stores-as-virus-cases-spike.html
- https://www.theverge.com/2020/12/19/22190895/apple-close-retails-stores-covid-19-london-california-pandemic