สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างแหล่งข่าววงในที่ออกมาเปิดเผยว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป (อียู) อาจทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมหาศาล หรือถูกแบนจากตลาด ในกรณีที่มีการละเมิดกฎขึ้น
รายงานระบุว่า คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปกำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายบริการดิจิทัล และกฎหมายตลาดดิจิทัล เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการกำกับควบคุมและดูแลบรรดาบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาทำธุรกิจใน 27 ประเทศสมาชิกอียู โดยบริษัทเหล่านี้อาจถูกปรับสูงสุดถึง 10% ของรายได้ หากละเมิดกฎระเบียบด้านการแข่งขัน ขณะที่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดบางแห่งอาจโดนแบนออกจากตลาดอียูตลอดกาล หากยังคงละเมิดกฎหมายอียูอย่างซ้ำซาก จนก่อให้เกิดแนวโน้มหรือปัจจัยอื่นๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของพลเมืองทั่วยุโรป
สำหรับร่างกฎหมายฉบับล่าสุดนี้ ถือเป็นการปฏิวัติวิธีการดำเนินธุรกิจของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงการตั้งเป้าจัดการกับคำพูดที่แสดงความเกลียดชัง และการบิดเบือนข้อมูลออนไลน์ รวมทั้งยับยั้งไม่ให้บริษัทชั้นนำผูกขาดตลาด
ทั้งนี้ บริษัทใหญ่ๆ จะถูกกำหนดให้เป็น ‘ผู้เฝ้าประตู’ หรือเกตคีปเปอร์ทางอินเทอร์เน็ต และต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับเฉพาะ เพื่อจำกัดการมีอำนาจเหนือตลาดอียู รวมถึงการรายงานเรื่องแผนการควบรวมกิจการให้แก่ทางการรับทราบก่อน เพื่อป้องกันบริษัทไอทีไม่ให้ใช้วิธีการดังกล่าวในการกำจัดคู่แข่ง โดยหลายฝ่ายมองว่า ข้อกำหนดนี้จะครอบคลุมบริษัทยักษ์ใหญ่นับสิบแห่ง และเกือบทั้งหมดคือบริษัทเทคโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ เช่น Google, Facebook, Apple, Amazon และ Microsoft
ด้าน Thierry Breton คณะกรรมาธิการตลาดภายในอียู (EU Internal Market Commissioner) กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของร่างกฎหมายใหม่นี้ เป็นไปเพื่อต้องการปรับปรุงกฎหมายเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทยักษ์ใหญ่ทางอินเทอร์เน็ตหลายแห่งในปัจจุบันยังไม่มีตัวตนหรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ก่อนย้ำว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ต้องการสร้างความแตกแยกหรือเลือกปฎิบัติ
“ทุกคนยังคงเป็นที่ต้อนรับในยุโรป โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของเราก็คือการให้แนวทาง และออกกฎหมายเพื่อปกป้องสิ่งที่สำคัญสำหรับภูมิภาคยุโรป” Breton กล่าว
ขณะที่ปฏิกิริยาของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงไม่พอใจ โดย Google เตือนว่ากฎหมายฉบับใหม่ของอียูจะส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมและการเติบโตของบริษัทในยุโรป เพราะกฎหมายใหม่ทำให้การพัฒนาต่อยอดเพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กในยุโรปเป็นเรื่องยากมากขึ้น
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: