ต้อนรับเช้าวันใหม่กับความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ประจำวันที่ 15 ธันวาคม ใน THE STANDARD WEALTH Morning Brief
กูรูแนะนำ ETF 3 ธีมที่น่าสนใจในปี 2021
Harry Whitton ผู้เชี่ยวชาญด้าน ETF แนะนำธีมการลงทุนสำหรับ ETF ในปี 2021 ใน 3 ธีม ประกอบไปด้วย (1) ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่เพิ่ง IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นธีมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในปี 2020 และมีเม็ดเงินไหลเข้าไปใน ETF ประเภทนี้อยู่พอสมควร เช่น Renaissance Capital IPO ETF ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าไปถึง 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 และให้ผลตอบแทนราว +111% (YTD) (2) ETF ที่ลงทุนในตลาด Emerging Market จากความคาดหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ (3) ETF ที่ลงทุนในวิดีโอเกมและอีสปอร์ต โดยเฉพาะ VanEck Vectors Video Gaming and eSports ETF ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการที่ใหญ่ที่สุดในธีมนี้ และมีการกระจายการลงทุนทั้งในประเทศสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน
Brexit Trade Deal ยังไม่ใกล้เคียงความจริง
บอริส จอห์นสัน นายกฯ ของอังกฤษเผยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรยังไม่ใกล้เคียงความเป็นจริงในประเด็นสำคัญๆ โดยกล่าวว่า “ผมเกรงว่าการเจรจายังห่างไกลกันมากในเรื่องสำคัญบางประเด็น แต่ที่ใดมีชีวิตที่นั่นก็มีความหวัง เราจะพูดคุยกันต่อไปเพื่อดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง สหราชอาณาจักรจะไม่เดินออกจากการเจรจาอย่างแน่นอน ทางเราจะพยายามต่อไป พยายามด้วยหัวใจและความสร้างสรรค์ แต่สิ่งใดที่เราไม่สามารถประนีประนอมได้เราก็จะไม่ยอม อย่างเช่น สิทธิในการทำประมง เรายังคงมีความปรารถนาที่จะเจรจาต่อไป แต่เราก็พร้อมสำหรับทางเลือกในการเจรจาผ่านองค์กรการค้าโลก” ล่าสุด การเจรจาที่มีเส้นตายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ถูกขยายออกไป
Dow Jones ผันผวนหนัก หวั่นกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวอย่างผันผวนในการซื้อขายวันแรกของสัปดาห์ โดยเฉพาะดัชนี Dow Jones ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 200 จุดในช่วงเปิดตลาดจากข่าวด้านบวกเกี่ยวกับวัคซีนที่พัฒนาโดย Pfizer และ BioNTech เริ่มมีการกระจายในสหรัฐฯ แล้ว แต่ดัชนีกลับมาปิดที่ระดับปรับตัวลดลงมากกว่า 180 จุดจากความกังวลว่า สหรัฐฯ อาจจะต้องเผชิญกับนโยบายล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังนายกเทศมนตรีของเมืองนิวยอร์กได้ออกมาเตือนว่า เมืองอาจจะต้องเจอกับมาตรการปิดเมืองแบบเต็มรูปแบบหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูง ดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีเพียงดัชนี Nasdaq 100 ที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ (1) คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติของสหรัฐฯ เผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้เริ่มกระบวนการเพิกถอนการอนุญาตในการดำเนินงานในสหรัฐฯ ของบริษัท China Telecom โดยอ้างว่ามีข้อกังวลอย่างมากที่ China Telecom จะถูกบังคับให้ปฏิบัติตามคำร้องขอข้อมูลของรัฐบาลจีน (2) Google ยังคงดำเนินนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น และยังไม่รีบเรียกให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ ล่าสุด ทางบริษัทยังให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ถึงเดือนกันยายน 2021 ขยายเวลาจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกรกฎาคม 2021
Alibaba และ Tencent ถูกทางการจีนสั่งปรับ 5 แสนหยวน ฐานไม่เปิดเผยการเข้าซื้อกิจการในอดีต
ตลาดหุ้นฮ่องกง Hang Seng ลดลง 116.35 จุด หรือ 0.44% ดัชนีของตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงสวนทางกับตลาดหุ้นจีน A-Share ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดี ปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงมาจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของดัชนีปรับตัวลดลง รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของดัชนีอย่าง Tencent และ Alibaba ก็ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงด้วย แต่ที่ดัชนีไม่ได้ปรับตัวลดลงแรงมากเนื่องจากหุ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นกันได้ดี จากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนที่ส่งสัญญาณกระตุ้นการบริโภคเพิ่มขึ้น
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ (1) Alibaba และ Tencent บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน 2 อันดับแรกได้ถูกทางการจีนปรับเงินบริษัทละ 500,000 หยวน จากการไม่เปิดเผยการเข้าซื้อกิจการในอดีตภายใต้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของประเทศ การเคลื่อนไหวในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังจากทางภาครัฐต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มากขึ้น (2) มีรายงานว่าลูกค้าจำนวนเกือบ 20,000 รายได้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซเจ้าดังอย่าง JD.com ผ่านเงินหยวนดิจิทัลหรือ Digital Renminbi ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 11 ธันวาคม 2020 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการใช้เงินดิจิทัลของประเทศจีน
ราคาทองคำปรับลดลงหลังสหรัฐฯ เริ่มกระจายวัคซีนในสหรัฐฯ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1,827 ดอลลาร์ ลดลง 0.65% จากข่าววัคซีนที่พัฒนาโดย Pfizer และ BioNTech เริ่มมีการกระจายในสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ดัชนี US Dollar Index ปิดที่ 90.70 จุด ลดลง 0.3%
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์