วานนี้ (27 พฤศจิกายน) Mohsen Fakhrizadeh นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของอิหร่าน ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกลอบสังหารใกล้เมือง Absard ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน โดยทางการประณามการลอบสังหารดังกล่าวว่าเป็นการก่อการร้าย
โดย Fakhrizadeh ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านมายาวนานหลายทศวรรษ การลอบสังหารมีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า อิหร่านกำลังรวบรวมแร่ยูเรเนียมในปริมาณมาก ซึ่งถือเป็นแร่สำคัญที่จะใช้เป็นพลังงานในอาวุธนิวเคลียร์ แม้ทางการอิหร่านจะยืนยันว่า การครอบครอง พัฒนา และวิจัยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์นี้เป็นไปเพื่อสันติ
เมื่อปี 2015 ทางการอิหร่านเคยร่วมกับอีก 6 ประเทศเจรจาเกี่ยวกับการจำกัดและปรับลดการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อค้นหาแนวทางที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและสันติภาพของประชาคมโลก แต่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งและไม่ให้ความสำคัญกับเวทีเจรจาดังกล่าว จึงเปิดโอกาสให้ทางการอิหร่านกลับมาพัฒนาและวิจัยอาวุธนิวเคลียร์ตามเดิม
โดยในช่วงปี 2010-2012 มีนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกลอบสังหารมากกว่า 4 ราย ทางการอิหร่านอ้างว่า อิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารและก่อการร้ายเหล่านั้น ซึ่งโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 46 เคยแสดงจุดยืนว่า เขาจะกลับมากระชับความสัมพันธ์กับอิหร่านผ่านการเจรจาเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งแล้ว แต่การลอบสังหารบิดานิวเคลียร์ในครั้งนี้อาจยิ่งทำให้การเจรจากับมหาอำนาจตะวันตกยิ่งยากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ภาพ: Iranian Leader Press Office / Handout / Anadolu Agency via Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: