บรรยากาศภาพรวมในการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันนี้ (8 พฤศจิกายน) เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังมีการประกาศรวมตัวกันในเวลา 16.00 น. เพื่อทำกิจกรรม ‘ราษฎรสาส์น’ โดยมีมวลชนทยอยมาปักหลักตั้งแต่ก่อนเวลานัดหมาย
หลังมวลชนได้รวมตัวกันอย่างหนาแน่นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 17.34 น. จึงมีการเคลื่อนขบวนโดยประกาศจุดหมายคือสำนักพระราชวัง ณ พระบรมมหาราชวัง เพื่อนำจดหมายที่เขียนไว้ส่งไปให้ใกล้บริเวณพระบรมมหาราชวังให้มากที่สุด โดยมีรถซาเล้งสีแดงนำขบวน ขณะที่ตำรวจแจ้งกับผู้ชุมนุมว่าห้ามชุมนุมในระยะ 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน
การเคลื่อนขบวนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกลุ่มราษฎรสามารถผ่านแนวกั้นบริเวณสะพานผ่านพิภพลีลาเพื่อข้ามไปยังฝั่งสนามหลวงได้สำเร็จ ก่อนจะติดแนวกั้นบริเวณหน้าศาลฎีกาที่มีรถเมล์ ขสมก. รั้วลวดหนาม รถฉีดน้ำแรงดันสูง และแนวกั้นของตำรวจขวางทางอยู่ จึงต้องมีการเจรจากันอยู่พักใหญ่
18.28 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมจนเกิดการชุลมุนอยู่พักใหญ่ เมื่อผู้ชุมนุมไม่พอใจการกระทำของตำรวจ โดยระบุว่าไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า จนสุดท้ายตำรวจประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ‘หยุดฉีดน้ำแล้ว’ ก่อนจะนำรถฉีดน้ำถอยออกจากบริเวณไป และภายหลังได้ประกาศขอโทษผู้ชุมนุมในนาม ผบช.น. แต่ผู้ชุมนุมยืนยันว่าต้องมีการลงโทษผู้ที่สั่งการด้วย
หลังจากการเจรจาผ่านไปกว่าชั่วโมง ในที่สุดแกนนำผู้ชุมนุมจึงประกาศต่อมวลชนว่า ขณะนี้ได้เข้าใกล้พระบรมมหาราชวังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มีการร่วมแรงร่วมใจกันจากการ์ดและประชาชนในการเคลื่อนย้ายรถขสมก.ที่ขวางทางออก
จากนั้นจึงอ่านแถลงการณ์ราษฎร ใจความสื่อถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเรียกร้องให้ฟังเสียงประชาชนและข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ก่อนจะประกาศให้มวลชนนำจดหมายที่เตรียมไว้หย่อนใส่ตู้ไปรษณีย์ และประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 20.55 น. พร้อมทิ้งท้ายให้มวลชนติดตามความเคลื่อนไหวอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า