มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่ของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาลและสภาคองเกรส ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเร่งเจรจากับรัฐมนตรีคลังเมื่อวานนี้เพื่อผลักดันดีลให้ลุล่วงก่อนการเลือกตั้ง แต่วุฒิสภาที่มี ส.ว. พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ยังไม่ยืนยันว่าจะลงมติเห็นชอบภายในกรอบเวลาดังกล่าว
ภายหลังการเจรจากัน 45 นาทีเมื่อวานนี้ (20 ตุลาคม) แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดจะพูดคุยกันต่อในวันนี้ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นที่ยังไม่ลงรอยกัน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับรัฐบาลระดับมลรัฐและรัฐบาลท้องถิ่น, เงินช่วยเหลือคนตกงาน, งบประมาณสำหรับโรงเรียน และเงินช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ
ถึงแม้เพโลซีจะมองในแง่บวกว่าการเจรจามีความคืบหน้า แต่เวลากำลังงวดเข้ามาทุกขณะ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ว่าข้อเสนอต่างๆ อาจต้องรอพิจารณาหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปก่อน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นช่วงการประชุมสภาคองเกรสที่ ส.ส. และ ส.ว. บางส่วนใกล้จะหมดวาระดำรงตำแหน่ง
เพโลซีเผยเมื่อวานนี้ว่า สองฝ่ายใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับจำนวนเงินที่จะใช้ในการตรวจโควิด-19 และติดตามการติดต่อสัมผัสผู้ติดเชื้อให้แก่ประชาชน หลังจากที่เจรจากันมาหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า ก่อนที่ร่างมาตรการจะผ่านความเห็นชอบในสภาเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย
ด้านสมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภาได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางการเจรจา โดย มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของรีพับลิกันในวุฒิสภา แย้มว่ามีแนวโน้มที่ข้อตกลงระหว่างสภาล่างกับรัฐบาลจะไม่ผ่านการลงมติก่อนวันเลือกตั้ง ขณะเดียวกันเขายังเตือนทำเนียบขาวด้วยว่าการผลักดันข้อเสนอให้ลุล่วงก่อนวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งนั้น อาจทำให้สมาชิกรีพับลิกันเกิดความแตกแยกภายในอย่างร้ายแรง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: