นิโคล ปาชินเนียน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย เปิดเผยว่า อาร์เมเนียพร้อมทำข้อตกลงสัมปทานร่วมในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค กับอาเซอร์ไบจาน เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง หลังจากที่ทหารของทั้งสองฝ่ายปะทะกันต่อเนื่องสู่วันที่ 10 และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 260 ราย
“ความขัดแย้งต้องได้รับการแก้ไขบนพื้นฐานของการให้สัมปทานร่วมกัน นากอร์โน-คาราบัคพร้อมอาร์เมเนียพร้อมที่จะตอบรับสัมปทานที่อาเซอร์ไบจานพร้อมจะทำ” ปาชินเนียนกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
สำหรับการสู้รบวานนี้ (6 ตุลาคม) ซึ่งเป็นวันที่ 10 มีรายงานว่า ทหารของฝ่ายกองกำลังชนพื้นเมืองอาร์เมเนียที่ควบคุมพื้นที่นากอร์โน-คาราบัค เสียชีวิตเพิ่มอีก 21 นาย ส่งผลให้ยอดรวมทหารที่เสียชีวิต นับตั้งแต่การสู้รบปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน เพิ่มเป็นกว่า 220 นาย และพลเรือนเสียชีวิต 21 คน บาดเจ็บ 82 คน
ส่วนทางการอาเซอร์ไบจานไม่เปิดเผยรายละเอียดทหารที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่รายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 25 ราย และบาดเจ็บ 127 ราย
ทางด้านกองทัพอาร์เมเนียรายงานว่า กองทัพอาเซอร์ไบจานพยายามโจมตีพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่น โดยได้ยิงอาวุธนำวิถีหลายลูกโจมตีเมืองสเตพานาแกร์ต ซึ่งเป็นเมืองเอกของนากอร์โน-คาราบัค
ขณะที่กระทรวงกลาโหมอาเซอร์ไบจานกล่าวหากองทัพอาร์เมเนียว่า ยิงกระสุนปืนใหญ่โจมตีหลายเมืองที่อยู่นอกพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงเมืองกานชา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
ทั้งนี้ ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค เป็นเขตปกครองตนเองที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าอยู่ภายใต้การปกครองของอาเซอร์ไบจานตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต แต่ชนพื้นเมืองชาวอาร์เมเนีย ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ นั้นเป็นฝ่ายควบคุมพื้นที่และประกาศแยกตัวจากอาเซอร์ไบจาน ตั้งแต่ปี 1991 ทำให้เกิดการทำสงครามในพื้นที่เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1992-1994 ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 30,000 ราย
ด้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย เปิดเผยต่อสำนักข่าว RIA ของรัสเซีย ว่ากองกำลังติดอาวุธจากซีเรียจะถูกส่งไปยังพื้นที่ขัดแย้งในนากอร์โน-คาราบัค พร้อมกล่าวหาตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับอาเซอร์ไบจาน ว่าเป็นตัวการหลักในการยุยงให้เกิดการสู้รบระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการสู้รบครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายมากว่า 25 ปี
ขณะที่รัฐบาลตุรกีปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการสู้รบที่เกิดขึ้นในนากอร์โน-คาราบัค
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: