นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสหญิงมือ 9 ของโลกจากญี่ปุ่น คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว รายการยูเอสโอเพ่น 2020 หลังเอาชนะ วิคตอเรีย อซาเรนกา จากเบลารุส ในรอบชิงชนะเลิศ ไป 2-1 เซต ด้วยสกอร์ 1-6, 6-3 และ 6-3 โดยนับเป็นการคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวยูเอสโอเพ่นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี และนับเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 3 ในชีวิตของเธออีกด้วย
โดยรอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยวเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่ฟลัชชิง เมโดว์ โคโรนา พาร์ก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นแบบไม่มีแฟนกีฬาเข้าชมการแข่งขัน เพื่อป้องกันโควิด-19 โดยเป็นฝั่งของอซาเรนกาที่ขึ้นนำก่อนในเซตแรก และโอซากะตามหลังอยู่ถึง 0-3 เกมในเซตที่ 2 ก่อนที่เธอจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บชัยชนะได้รวดใน 2 เซตหลัง คว้าแชมป์ในปีนี้ไปครอง
“ฉันไม่อยากเล่นรอบชิงฯ อีกแล้ว มันไม่สนุกเลย มันเป็นแมตช์ที่ยากมาก” โอซากะยอมรับพร้อมกับรอยยิ้มระหว่างการให้สัมภาษณ์หลังคว้าแชมป์
“มันเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับฉัน เพราะว่าฉันเคยดูคุณ (อซาเรนกา) เล่นที่นี่ ตอนเด็กๆ ฉันเรียนรู้หลายอย่างมากจากคุณ”
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ นาโอมิ โอซากะ ไม่ได้แสดงผลงานเพียงแค่ในคอร์ตการแข่งขัน แต่เธอได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายจากความพยายามผลักดันการต่อต้านการเหยียดสีผิวและความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในสหรัฐอเมริกา
โดยเธอได้สวมใส่หน้ากากที่มีชื่อของ บรีออนา เทย์เลอร์ หญิงผิวดำที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงจนเสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยตลอดการแข่งขัน เธอได้เปิดเผยว่าเธอมีหน้ากากที่มีชื่อของเหยื่อความรุนแรงทั้งหมด 7 ชิ้น โดยเธอตั้งใจที่จะใส่ให้ครบทุกอัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันให้เธอไปสู่รอบชิงชนะเลิศ
“ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ผู้คนเริ่มต้นพูดถึงสิ่งเหล่านี้” โอซากะเผยหลังคว้าแชมป์
“ฉันอยู่ด้านในของพื้นที่การแข่งขัน (Bubble) และไม่แน่ใจว่าด้านนอกกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้างในโลก ดังนั้นการที่ยิ่งมีการรีทวีต ก็ยิ่งมีคนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: