การแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพ่น ในปีนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากผลการแข่งขันในสนามในบรรยากาศที่เงียบเหงาคือหน้ากากผ้าที่ นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสสาวดาวเด่นชาวญี่ปุ่นสวมใส่
โอซากะไม่ได้ใส่หน้ากากของแบรนด์ไหน หากแต่เป็นหน้ากากผ้าที่มีข้อความที่เขียนว่า Breonna Taylor ซึ่งมาจากชื่อหญิงผิวดำวัย 26 ปีที่เสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารอย่างโหดเหี้ยมในเหตุการณ์ประท้วงที่เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
หน้ากากนี้เป็น 1 ใน 7 หน้ากากที่มีชื่อของผู้ที่เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อคนผิวดำ ซึ่งเป็นสิ่งที่โอซากะพยายามต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และทำให้สังคมได้ตระหนักถึงปัญหาการเหยียดสีผิว
“มันน่าเศร้าที่หน้ากากแค่ 7 อันนี้ไม่สามารถระบุชื่อคนที่เสียชีวิตทั้งหมดได้ ดังนั้น ฉันหวังว่าฉันจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเพื่อทุกคนจะได้เห็นชื่อทั้งหมด” โอซากะ ซึ่งเคยคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2018 และรายการออสเตรเลียน โอเพ่น ในปี 2019 กล่าวถึงหน้ากากของเธอที่สวมทั้งในช่วงก่อนจะทำการแข่งขัน และในการสัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันที่เธอเอาชนะ มิซากิ โดอิ นักเทนนิสคนญี่ปุ่นเหมือนกัน 6-2, 5-7, 6-2 ในรอบแรกของการแข่งขันยูเอสโอเพ่น
“ฉันตระหนักดีว่าแฟนเทนนิสทั่วโลกกำลังจับตาดูอยู่ และบางทีอาจจะมีคนที่ไม่เคยรู้เรื่องของ บรีออนนา เทย์เลอร์ มาก่อน บางครั้งพวกเขาอาจจะสนใจและพยายามค้นหาข้อมูลเรื่องราวนี้
“สำหรับฉันแล้ว มันคือการทำให้สังคมรับรู้ในวงกว้าง ฉันรู้สึกว่ายิ่งมีคนรู้เรื่องนี้มากขึ้นเท่าไร ผู้คนก็จะยิ่งสนใจเรื่องนี้ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้มากขึ้นเท่านั้น”
นักเทนนิสสาววัย 22 ปีเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ออกมาส่งเสียงอย่างชัดเจนในเรื่องการต่อสู้การเหยียดสีผิว เช่นเดียวกับ เลอบรอน เจมส์, ลูอิส แฮมิลตัน และคอรี กอฟฟ์ หนูน้อยมหัศจรรย์ของวงการเทนนิส ซึ่งการออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ของเธอทำให้มีหลายคนกังวลว่าการ ‘Come out’ ของเธอส่งผลต่อชีวิตหรือไม่
แต่โอซากะยืนยันว่าเธอไม่เคยรู้สึกเครียดหรือกดดันจากสิ่งที่ทำเลย
“มีคนจำนวนมากถามฉันว่าฉันรู้สึกเครียดหรือเปล่าหลังจากที่เริ่มออกมาพูดเรื่องนี้มากขึ้น บอกตรงๆ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย” โอซากะกล่าว “มาถึงจุดนี้มันเหมือนกับว่าถ้าคุณจะไม่ชอบฉันก็เท่านั้น คุณรู้นะว่าฉันหมายถึงอะไร?”
สำหรับแมตช์ต่อไปโอซากะจะพบกับ คามิลา จอร์จี นักเทนนิสสาวชาวอิตาลี ซึ่งเธอยอมรับว่าเป็นนักเทนนิสที่จับทางยาก และจะต้องพยายามเล่นอย่างเต็มที่
เช่นเดียวกับการที่เธอจะตั้งใจส่งสารถึงทุกคนผ่านหน้ากากเล็กๆ แต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ของเธอ
ว่าโลกใบนี้มีผู้ที่จากไปแบบไม่สมควร และไม่มีใครควรจะถูกลืมเพียงเพราะวันเวลาที่ผ่านไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: