“ก่อนที่เขาจะอาบน้ำร้อนมาก่อน เขาก็เป็นเหมือนเราที่ยังไม่ได้อาบน้ำร้อนมาก่อน แล้วทำไมไม่ลองให้เราไปอาบน้ำร้อนด้วยตัวเองดูบ้าง”
เสียงเล็กๆ ที่อยากให้หลายคนได้ฟังจาก นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์ ผู้รับบทเป็น ‘เกรซ’ เด็กสาวเรียนไม่เก่ง แต่มีความสามารถโดดเด่นเรื่องการแสดง ที่ใช้เทคนิค ‘จิกขาบีบน้ำตา’ ช่วยให้เนื้อเรื่องใน ฉลาดเกมส์โกง เวอร์ชันละครโทรทัศน์เข้มข้นขึ้นสุดๆ ใน 6 ตอนแรกที่เพิ่งออกอากาศ
THE STANDARD POP ชวน นาน่า มาพูดคุยถึงความรู้สึกลึกๆ ที่เป็นปมในใจของเกรซมาตลอด, ความน่าเบื่อของการโกง และความรู้สึกที่อยากเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ที่ได้ทดลองใช้ชีวิตและ ‘อาบน้ำร้อน’ ด้วยตัวเอง เพื่ออุ่นเครื่องก่อนที่เกมโกงครั้งต่อไปจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในคืนนี้
เกรซ เด็กสาวธรรมดาที่แค่อยากให้มีคนรักและสนใจ
“ฉลาดเกมส์โกง เวอร์ชันละครจะขยายปมในใจของเกรซให้เห็นมากขึ้นกว่าในหนัง โดยเฉพาะเรื่องที่อยากให้ทุกคนรักและสนใจ เกรซไม่ได้ต้องการหลอกใช้คนอื่นเพราะเป็นคนเลว เพียงแค่เกรซต้องการเติมช่องว่างตรงนี้เท่านั้น เพราะสิ่งที่เกรซเป็นอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย
“การเป็นคนธรรมดาที่เห็นว่าทุกคนมีจุดเด่นกันหมด ลินกับแบงค์เก่ง พัฒน์ไม่เก่งแต่รวยมาก ส่วนเกรซไม่มีอะไรเลย แล้วก็พยายามเรียนพิเศษ พยายามทำทุกอย่างแต่ก็ไม่เข้าใจ มีแค่เรื่องเดียวที่รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีก็คือการแสดง แต่ก็แสดงไม่ได้อีกเพราะต้องทำเกรดให้ถึง ตรงนี้ทำให้เกรซไม่เข้าใจว่าทำไมแค่เรียนไม่เก่งถึงทำการแสดงไม่ได้ หรือว่าการเรียนคือทุกอย่าง การที่เราแสดงเก่งมันเทียบกับที่ลินเรียนเก่งไม่ได้เหรอ
“ถ้าได้คุยกันจริงๆ หนูอยากบอกเกรซว่าไม่ต้องพยายามให้ทุกคนมารักหรอก เพราะเกรซมีคนรักเกรซตั้งเยอะ เพราะพื้นฐานเกรซเป็นคนจริงใจและรักเพื่อนมาก ส่วนเรื่องการเรียนก็ต้องเอาให้ผ่านด้วย แต่ไม่ต้องเสียใจที่เราไม่เก่งด้านนี้ ไม่ต้องอยากเก่งเหมือนคนอื่น
“หนูเชื่อว่าเกรซเป็นคนมีความสามารถมากๆ และการแสดงจะพาไปสู่อนาคตที่ดีได้แน่นอน ไม่อยากให้เกรซต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะที่เกรซเป็นตัวเองมีเสน่ห์และดีที่สุดแล้ว เพราะความคิดด้านลบจะทำให้ความน่ารักสดใสของเกรซที่ทำให้ทุกคนรอบตัวมีความสุขได้หายไปหมดเลย เหมือนดอกไม้ที่เคยสวยมากๆ เหี่ยวลงมาเลย
การโกง ตื่นเต้นได้ไม่นาน แต่น่าเบื่อตลอดไป
“ถ้าดูจากในหนังหรือละคร การโกงมันมีความตื่นเต้นสะใจแค่ช่วงแรกๆ แล้วหลังจากนั้นเราอาจรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป หรือการโกงนั้นอาจจะเปลี่ยนชีวิตคนนั้นไปเลยก็ได้ สมมติเราโกงข้อสอบแล้วได้คะแนนดี แต่พอกลับไปเรียนในห้องไม่เข้าใจอะไรเลย ครั้งต่อไปเราก็ต้องโกงอีก กลับไปเรียนใหม่ไม่เข้าใจ ต้องโกงต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราจะได้อะไรจากวงจรนี้
“หรือเวลาเราโกงเกม ใส่ Cheat Code เข้าไปได้เงินมาร้อยล้าน ซื้ออะไรก็ได้ เอาไปอวดเพื่อนที่ยังไม่มี ตอนแรกสนุกมากเลยนะ แต่แป๊บเดียวมันจะเบื่อ เพราะเราได้ทุกอย่างมาหมดแล้ว ถ้าเราค่อยๆ เก็บเงินซื้อของมาทีละอย่าง ค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปเรื่อย มันจะสนุกและดีใจกว่ากันเยอะมากๆ และทำให้เราเล่นเกมนั้นได้นานด้วย
“แต่ส่วนตัวหนูไม่โกงข้อสอบนะคะ รู้สึกว่ายังไม่พร้อมรับผลที่ตามมาได้ขนาดนั้น เพราะหนูเป็นคนเซนสิทีฟมาก แค่ครูพูดอะไรนิดอะไรหน่อย หรือโดนต่อว่าหน้าห้อง ก็ทำให้หนูน้ำตาไหลซึมแล้ว เลยไม่ค่อยกล้าทำอะไรซ่าๆ ให้โดนดุเท่าไร”
การเติบโต ขอเป็นผู้ใหญ่ที่ได้ ‘อาบน้ำร้อน’ ด้วยตัวเอง
“หนูคิดว่าปัญหาอย่างหนึ่งของเด็กรุ่นใหม่คือการที่ผู้ใหญ่บางคนไม่ค่อยเปิดรับกับบางเรื่องที่เด็กอยากนำเสนอออกไป เหมือนคำว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน ที่เขาพูดต่อกันมา เข้าใจว่าเขาคงเป็นห่วงพวกเราและเตือนด้วยความหวังดี ไม่อยากให้เราผิดพลาดเหมือนที่เขาเคยเจอมาก่อน แต่ก็อยากให้เปิดรับฟังความคิดเห็นมากกว่านี้ เพราะโลกกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว
“อีกอย่างคือก่อนที่เขาจะอาบน้ำร้อนมาก่อน เขาก็เป็นเหมือนเราที่ยังไม่ได้อาบน้ำร้อนมาก่อน แล้วทำไมไม่ลองให้เราไปอาบน้ำร้อนด้วยตัวเองดูบ้าง หนูคิดว่าการปล่อยให้ไปเผชิญกับความลำบาก ความเจ็บปวดดูบ้าง เป็นส่วนสำคัญในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะความผิดพลาดทำให้เราเข้มแข็งขึ้นได้จริงๆ เพื่อที่วันหนึ่งเราจะโตขึ้นไปแล้วพูดกับคนอื่นได้ว่า เราอาบน้ำร้อนมาก่อนเหมือนกันนะ”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
