“ในใจเธอดวงนั้นยังมีฉันหลงเหลือไหม”
“ฉันมันเป็นใครอยู่ตรงไหนในความทรงจำของเธอ”
เราเชื่อว่าความรู้สึกในการฟังเพลงจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตามบริบท ช่วงอายุ เวลา และสถานการณ์ที่พบเจอระหว่างเพลงดังขึ้นมาในหู ส่งข้อความไปถึงสมอง และส่งต่อความรู้สึกไปที่หัวใจ
สองคำถามด้านบน ที่ถูกถามซ้ำๆ ในเพลง ‘ฉันมันเป็นใคร’ ซิงเกิลล่าสุดจากวง Tilly Birds คือตัวอย่างที่ช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าเราฟังในเวลาอกหักจากความรักตามปกติ เราคงคิดว่านี่คือเพลงให้กำลังใจ และคอยเตือนให้เห็นคุณค่าของตัวเอง
แต่บังเอิญว่าเราได้ฟังเพลงนี้ในช่วงที่ไม่ได้อกหักจากความรัก แต่กำลังอยู่ในช่วงบอบช้ำจากการ ‘อกหัก’ เพราะผิดหวังกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง โดยเฉพาะภาพและเนื้อหาในมิวสิกวิดีโอ ที่แม้จะจำลองโลกในละครเรื่อง ‘บ้านทรายทอง’ ขึ้นมา แต่สามารถวางซ้อนทับกับหลายๆ เหตุการณ์ที่เรากำลังเจออยู่ในปัจจุบัน (หรือนานกว่านั้น) ได้พอดี
“เพราะในตอนนี้ ทุกอย่างข้างในนี้ ยังมีแต่เธอ มีแต่เธอ อยู่ทุกที่ มันพอจะมี จะมีสักครั้งไหมที่ในนั้น ยังมีฉัน แค่สักนิด”
Tilly Birds เริ่มต้นเพลงด้วยประโยคคำถาม ตัดพ้อในความสัมพันธ์ที่เรารักใครคนหนึ่งมากๆ โดยไม่รู้เลยว่าอีกคนนั้นยังมีเราอยู่ในหัวใจบ้างไหม และเริ่มต้นมิวสิกวิดีโอด้วยภาพ หญิงสาวถักเปียถือชะลอมเหมือนพจมานเดินเข้ามาในบ้านทรายทอง ณ เขต ‘ภาษีเจริญ’ ที่มีบรรดา ‘คุณหญิง-คุณชาย’ ทอดสายตามองต่ำลงมาที่เธอ
เธอเข้ามาในฐานะคนรับใช้ คอยปรนนิบัติคุณท่านทั้งหลายที่กดขี่เธอซ้ำๆ ทั้งสายตา คำพูดจา ทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ แม้กระทั่งชายน้อยยังถ่มน้ำลายรดซากแมลงบนพื้น ในขณะที่พจมานกำลังทำแผลให้ ราวกับว่าไม่เคยมองเห็นเธออยู่ตรงนี้ หรือถ้ามองเห็นเธอก็เป็นเพียงที่ ‘ระบายอารมณ์’ ให้กับผู้มีอำนาจเหนือกว่า ไม่ใช่ในฐานะมนุษย์ที่เท่าเทียมและควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน
เธอทำได้เพียงแค่อดทนอดกลั้น มองค้อนจากสายตามุมต่ำของผู้ถูกกระทำ พร้อมกับคำถามที่ดังขึ้นมาในหัวใจ
“ฉันมันเป็นใคร อยู่ตรงไหนในความทรงจำของเธอ เธอคิดถึงใคร ในความฝันเคยมีภาพฉันบ้างไหม”
กระทั่งความจริงเปิดเผยในวันหนึ่งที่กำลังเสิร์ฟอาหารตามปกติ เอกสารพินัยกรรมยืนยันชัดเจนว่า ‘พจมาน พินิจนันต์’ คือผู้ที่มีสิทธิชอบธรรมในทรัพย์สินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ทุกสายตามองไปยังหญิงสาวผมเปียที่ค่อยๆ วางจานอาหารลงบนโต๊ะช้าๆ โดยไม่ต้องเสิร์ฟให้ใครอีกต่อไป
“เรายังมีความหมายอะไรกับใครบ้างไหม ตัวตนของเรานั้นมันยังสำคัญใช่ไหม”
เธอเดินกลับไปที่ห้อง ถอดวิกผมเปียที่สวมใส่มาตลอด สูบบุรี่พ่นควันมองเอกสารพินัยกรรมด้วยความสบายใจ ก่อนที่จะสอดกระดาษที่ยืนยันทุกอย่างไว้ใต้หมอน ความอดทนกำลังจะออกดอกผล เธอกำลังจะได้สิ่งที่ต้องการมาไว้ในครอบครอง
ในขณะที่คุณหญิงคุณชายที่กำลังกลายสถานะเป็นอื่น พยายามทำทุกอย่างทั้งสวดอ้อนวอนถึงบรรพบุรุษและหิ้งพระที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยให้ความเคารพ ไปจนถึงลักลอบเข้าไปขโมยเอกสารมาเผาทิ้งทำลายหลักฐานและหัวเราะให้กันอย่างสะใจ
ทันทีที่ลืมตาตื่น เธอกระวีกระวาดหยิบวิกผมขึ้นมาใส่ ก่อนที่จะออกมาพบว่าหลักฐานเพียงหนึ่งเดียวเหลือเพียงเถ้าถ่าน ภาพในอดีตที่ถูกกระทำซ้อนทับขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเสียงคอรัสและดนตรีเร่งเร้า กระตุ้นบอกว่าครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอีกต่อไป
เธอรวบรวมเศษซากความหวังที่แตกสลาย ประกอบขึ้นมาใหม่ด้วยพลังความโกรธแค้น ตอบโต้ทุกความอยุติธรรมที่เคยกดขี่ด้วยวิธีการรุนแรงแบบเดียวกับที่เคยโดนมาก่อน
ฉากสุดท้ายในมิวสิกวิดีโอ จบลงตรงที่ทุกคนในบ้านทรายทองถูกกำจัด หญิงสาวผมเปียพา ‘กลุ่มคน’ ที่มีลักษณะคล้ายกับสมาชิกเก่า มาสวมรอยแทนคุณหญิงคุณชายที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้อีกต่อไป
เช่นเดียวกับพจมานตัวจริง ‘เจ้าของบ้าน’ โดยชอบธรรม ที่ไม่มีใครรู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร หรือถูกใคร ‘บังคับให้สูญหาย’ ไปแล้วหรือเปล่า
“ฉันมันเป็นใคร ชีวิตนี้คนกำหนดไม่ใช่เธอ ฉันจะเป็นใคร อยู่ที่ฉัน ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ใคร”
ถึงแม้อยากชื่นชมทีมงานทุกคนว่าถ่ายทอดทั้งบทเพลงและมิวสิกวิดีโอเพลง ฉันมันเป็นใคร ออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่มีความสุขเท่าไรนัก เพราะไม่สามารถหยุดเชื่อมโยงเรื่องราวโลกจำลองของบ้านทรายทองที่ดาร์กยิ่งกว่าหนังในจักรวาล DC ออกไปจากหัว พร้อมกับแฮชแท็ก #ถ้าการเมืองดี ที่ลอยขึ้นมาในหัวตลอดเวลา
เพราะอย่างน้อยที่สุด #ถ้าการเมืองดี เราคงสามารถฟังเพลงนี้ให้เป็นเพลง ‘รัก’ ที่ฟังแล้วกำลังใจมองเห็นคุณค่าในชีวิตของตัวเองเหมือนที่ตัวเพลงจริงๆ ต้องการจะนำเสนอ
เราจะได้ฟังเพลงนี้แล้วทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรักในอดีต นำมาเป็น ‘บทเรียน’ เพื่อพัฒนาตัวเองสำหรับความสัมพันธ์ครั้งต่อไป โดยไม่ต้องนึกถึง เรือดำน้ำ, เงินภาษี, นาฬิกาหรู, เสือดำ, รถป้ายแดง, กฎหมาย, ผู้คนที่ถูกจับ, โดนบังคับให้สูญหาย และอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตของเราอาจจะ ‘ไม่มีค่า’ ให้มองเห็นขึ้นมาจริงๆ
เราจะได้ฟังเพลงนี้แล้วร้องไห้เพราะคิดถึงคนรักเก่า ไม่ใช่ฟังแล้วเศร้าเพราะคิดถึงใครบางคนที่อวดอ้างความเป็นเจ้าของ และยืดอกพูดอย่างภาคภูมิใจว่า มีคน ‘เลือก’ ให้เข้ามาเป็นผู้นำโดยชอบธรรม ทั้งที่จริงๆ แล้วใช้อำนาจ ‘ยึด’ เข้ามาโดยไม่อาจขัดขืน
เราจะได้อินไปกับมิวสิกวิดีโอได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าเหตุการณ์จะเกิดความรุนแรงแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ หรือเปล่า
ได้แต่หวังว่าสักวัน #ถ้าการเมืองดี พวกเราทุกคนจะได้เป็นพจมานเจ้าของบ้านตัวจริง ได้ใช้ชีวิตอยู่ใน ‘บ้านทรายทอง’ หลังนี้อย่างมีความสุข และสามารถฟังเพลง ‘รัก’ ให้เป็นเพลงรักได้จริงๆ โดยไม่ต้องเชื่อมโยงกับเรื่องอื่นๆ ให้เจ็บปวดใจ
รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง ฉันมันเป็นใคร (Who I Am) – Tilly Birds ได้ที่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์