บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซึ่งมีธุรกิจหลักเป็นศูนย์การค้า เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของโรคโควิด-19 เพราะมีผลทำให้ต้องปิดศูนย์การค้าชั่วคราวทั้ง 33 แห่งในประเทศไทย และ 1 แห่งในมาเลเซีย รวม 34 แห่ง โดยมีระยะเวลาการปิดศูนย์การค้าที่แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ระหว่าง 45-56 วัน
กลายเป็นสาเหตุหลักที่เข้ามากระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2563 ที่รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า มีรายได้รวม 3,613 ล้านบาท ลดลง 60.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีต้นทุน 3,278 ล้านบาท ลดลง 26.9% ซึ่งสรุปแล้วไตรมาสนี้ขาดทุน 611 ล้านบาท ลดลง 123.5%
สำหรับงวด 6 เดือน มีรายได้ 12,183 ล้านบาท ลดลง 31.8% มีต้นทุน 7,542 ล้านบาท ลดลง 11.7% และมีกำไรสุทธิ 1,890 ล้านบาท ลดลง 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบันธุรกิจของ CPN แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
- ศูนย์การค้า 34 โครงการ พื้นที่ราว 1.8 ล้านตารางเมตร และสำนักงานให้เช่า 7 อาคาร
- ธุรกิจศูนย์อาหาร 30 แห่ง
- ธุรกิจโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทารา อุดรธานี และฮิลตัน พัทยา
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัย 12 โครงการ
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน และส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ CPN จึงประเมินว่า จะยังไม่ฟื้นตัวมาสู่ระดับปกติภายในปีนี้ โดยจะเดินหน้าแผนลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับรายได้ และรักษาความสามารถในการทำกำไร
ขณะเดียวกัน CPN กำลังทบทวนแผนลงทุนและเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2563-2566) โดยจะทบทวนแผนการพัฒนาในทุกโครงการ โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-Use Development) เพื่อรักษากระแสเงินสดและสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการทำธุรกิจท่ามกลางความท้าทาย
แต่ทั้งนี้ CPN จะยังศึกษาโอกาสการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในสินทรัพย์และธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงและให้ผลตอบแทนดี ตลอดจนศึกษาโอกาสการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโต เช่น มาเลเซียและเวียดนาม เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
