- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้จีนมีกำหนดประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมจากสถาบันไฉซิน (Caixin Manufacturing PMI) ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 51.3 จุด ขยายตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 51.2 จุด ซึ่งการยืนอยู่เหนือ 50.0 จุด แสดงถึงภาวะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมจากสถาบัน ISM (ISM Manufacturing PMI) ซึ่งอยู่ที่ 53.6 จุด ขยายตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.6 จุด ส่วนเยอรมนีมีกำหนดประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมจากสถาบัน Markit (Manufacturing PMI) โดยคาดว่าจะประกาศอยู่ที่ 50.0 จุด ซึ่งกลับมาสู่ระดับขยายตัวได้อีกครั้ง หลังอยู่ในแดนหดตัว 4 เดือนต่อเนื่อง
- หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเตรียมแบนแอปพลิเคชันสัญชาติจีนชื่อดัง TikTok เนื่องจากกังวลปัญหาด้านความมั่นคงและข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลนั้น ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ หลายบริษัท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Microsoft ได้เดินหน้าเจรจากับ Bytedance บริษัทเจ้าของ TikTok เพื่อขอซื้อกิจการ โดยระบุว่าจะเป็นผลดีทั้งคู่ เนื่องจากจะทำให้ Microsoft ได้เข้าสู่วงการโซเชียลมีเดีย ขณะที่ Bytedance สามารถขจัดปัญหาการถูกแบนลงได้
- สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แถลงในการประชุมธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) ระบุว่า AIIB พร้อมที่จะเชื่อมต่อภายในเอเชียทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้างให้มากขึ้น เพื่อรองรับพัฒนาการที่สำคัญจากประเทศสมาชิกทั้งหมดที่มีกว่า 102 ประเทศทั่วโลก ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และการลงทุนที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ซึ่งจะช่วยปูทางไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้ พร้อมทั้งระบุว่า AIIB เปิดกว้างสำหรับความร่วมมือทุกรูปแบบ เพื่อประสานประโยชน์ระหว่างกันมากขึ้น
- เช้าวันนี้เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น รายงานดัชนี Manufacturing PMI ประจำเดือนกรกฎาคมออกมาที่ 46.9 จุด 50.6 จุด และ 45.2 จุด ตามลำดับ ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 43.4 จุด 46.20 จุด และ 40.1 จุด ตามลำดับ โดยทั้ง 3 ประเทศนั้นพึ่งพาการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม และอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก เมื่อแนวโน้มของสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีชะลอตัวลงน้อยกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่งผลให้อุตสาหกรรมของทั้ง 3 ประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว
- มาร์ค มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่อาจยังไม่สามารถบรรลุข้อสรุปได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่สามารถตกลงรายละเอียดความช่วยเหลือได้ แม้จำนวนเงินที่ทั้งสองพรรคจะเสนอให้เยียวยาชาวอเมริกันจะตรงกันที่ 1,200 ดอลลาร์ก็ตาม โดยในรายละเอียดพรรครีพับลิกันระบุว่า เตรียมปรับลดเงินช่วยเหลือของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สำหรับผู้ตกงานลงเหลือ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ไปจนถึงเดือนกันยายนนี้ ขณะที่พรรคเดโมแครตต้องการให้จ่ายเงินช่วยเหลือคนว่างงานที่ระดับเดิม 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า อย่างไรก็ตาม สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า มีความเชื่อมั่นว่าการดำเนินการเบิกจ่ายในครั้งนี้จะเร็วกว่าครั้งก่อนหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์
ภาวะตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนของนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากผลประกอบการที่ดีกว่าคาด เช่น Apple พุ่ง 10.47% และ Facebook พุ่ง 8.17% เป็นต้น สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงจากตัวเลข GDP ที่ออกมาแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้านี้อาจไม่เพียงพอ และแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปยังไม่สู้ดีนัก
.
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังได้รับรายงานจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการขุดเจาะน้ำมันว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลง 1 แท่น ส่งผลต่ออุปทานที่ลดลง ซึ่งมีผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ฟื้นตัว และจำนวนผู้ติดโควิด-19 ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากแรงกดดันดังกล่าว
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 26428.32 เพิ่มขึ้น 114.67 (0.44%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3271.12 เพิ่มขึ้น 24.9 (0.77%)
- Nasdaq อยู่ที่ 10745.28 เพิ่มขึ้น 157.46 (1.49%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12313.36 ลดลง -66.29 (-0.54%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5897.76 ลดลง -92.23 (-1.54%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3174.32 ลดลง -33.88 (-1.06%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19091.93 ลดลง -136.54 (-0.71%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 21710 ลดลง -629.23 (-2.82%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5927.8 ลดลง -123.3 (-2.04%)
- Shanghai อยู่ที่ 3310.01 เพิ่มขึ้น 23.18 (0.71%)
- SZSE Component อยู่ที่ 13637.88 เพิ่มขึ้น 171.03 (1.27%)
- China A50 อยู่ที่ 15281.36 เพิ่มขึ้น 78.72 (0.52%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24595.35 ลดลง -115.24 (-0.47%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12664.8 ลดลง -58.12 (-0.46%)
- SET อยู่ที่ 1328.53 เพิ่มขึ้น 12.79 (0.97%)
- KOSPI อยู่ที่ 2249.37 ลดลง -17.64 (-0.78%)
- IDX Composite อยู่ที่ 5149.63 เพิ่มขึ้น 38.51 (0.75%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 37606.89 ลดลง -129.18 (-0.34%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5928.45 ลดลง -37.82 (-0.63%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.35 (0.88%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 43.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.36 (0.84%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1975.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.4 (0.79%)
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters