ธนาคารกลางเกาหลีใต้คงดอกเบี้ยตามคาด, BOJ ให้คำมั่น กระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่อไป: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (16 ก.ค. 2563)

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหภาพยุโรปมีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.3%YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า หลังผ่านการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศยอดคำขออนุญาตสร้างบ้านประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 1.29 ล้านหลัง ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำหนุนตลาดสินเชื่อของสหรัฐฯ ให้ขยายตัว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้หลังคลายมาตรการปิดเมือง

วานนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.10% พร้อมกับคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับ 0% และคงมาตรการสนับสนุนภาคเอกชนในวงเงินรวม 110 ล้านล้านเยน (1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงโครงการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับบริษัทเอกชน ตลอดจนเข้าซื้อหุ้นกู้และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) หลังจากที่ได้เปิดตัวโครงการดังกล่าวในการประชุมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ BOJ ยังระบุว่าพร้อมใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปหากมีความจำเป็น แม้กิจกรรมในภาคส่วนต่างๆ ของระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

วานนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตร (OPEC Plus) มีมติร่วมกันผ่อนคลายการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงจาก 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงสิ้นปี 2020 นี้ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเริ่มฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุว่าหากประเทศต่างๆ ยังล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันอย่างมีนัยสำคัญนั้น ทางกลุ่มจะจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณาแนวทางอีกครั้ง และระบุให้ประเทศสมาชิกที่ผลิตน้ำมันเกินปริมาณที่ตกลงในช่วงที่ผ่านมายื่นแผนการชดเชยการผลิตกับเลขาธิการ OPEC ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ระบุว่ารัฐบาลจีนพร้อมที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ ดำเนินการก่อนหน้านี้ หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามบังคับใช้กฎหมายคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน และลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อยุติการให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกง โดยจีนมองว่าสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในของจีน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง จีนจึงพร้อมที่จะตอบโต้และประณามอย่างถึงที่สุด

เช้าวันนี้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมทั้งคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินในช่วงที่ผ่านมาไว้ทั้งหมด เพื่อคงการเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 2 ที่ออกมาแข็งแกร่ง รวมไปถึงแรงหนุนจากรายงานสรุปภาพรวมเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Beige Book ที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกันจากความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 รวมไปถึงความคาดหวังที่ผู้นำสหภาพยุโรปจะอนุมัติวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.5 แสนล้านยูโรในช่วงปลายสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 7.49 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จากระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลที่จะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาประเด็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังไม่ได้ข้อยุติต่อไป

สหรัฐฯ