วานนี้ (8 กรกฎาคม) อนุชา กระจายศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 พร้อมด้วย เผด็จ ลายทอง ผอ.สสป.สบอ.2 (ศรีราชา) หัวหน้าและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ, เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว, นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ พร้อมผู้นำชุมชน, ทีมสัตวแพทย์, สัตวบาล ประจำ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา), ชุดอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า อช.คิชฌกูฏ และ ขสป. เขาสอยดาว, เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดจันทบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่หลังมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ ท้องที่หมู่ 10 ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลังได้รับแจ้งพบซากช้างป่าจำนวน 1 ตัว
จากผลการตรวจสอบชันสูตร พบซากช้างป่าสีดอ เพศผู้ จำนวน 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 3,000-3,500 กิโลกรัม อายุประมาณ 18-20 ปี โดยเจ้าหน้าที่ติดตามช้างป่าตัวดังกล่าวระบุว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวไม่ขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระมาประมาณ 2 วัน ตรวจภายนอกไม่พบร่องรอยผิดปกติหรือบาดแผลใดๆ
โดยสัตวแพทย์ได้ผ่าชันสูตร พบความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร โดยพบว่า ลำไส้เกิดการอักเสบ มีแผลที่ผนังลำไส้ พบลิ่มเลือด พบปื้นเลือด และเนื้อตายในบางส่วน
นอกจากนี้ยังพบถุงพลาสติกที่มีลักษณะเปื่อยภายในลำไส้ ตลอดจนปะปนอยู่กับอุจจาระภายในลำไส้ใหญ่และภายในช่องปาก พบอุจจาระอยู่เต็มลำไส้ พบพยาธิตัวกลมปะปนกับอุจจาระ พบน้ำภายในลำไส้และช่องท้องปริมาณมาก และได้เก็บตัวอย่างอวัยวะภายใน เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ สัตวแพทย์สรุปสาเหตุการตายเบื้องต้นว่า เกิดจากระบบทางเดินอาหารในส่วนของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่มีความผิดปกติ เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง ทำให้ส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของลำไส้ เกิดอาการท้องอืด ไม่มีการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ โดยต้องรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง
ภาพ: ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล